ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีทางด้านสันติภาพ หลังรัสเซียกับยูเครน ตกลงแลกเชลยสงครามกว่า 300 คน ก่อนวันสิ้นปี
เรื่องนี้ถือว่าเป็นข่าวดีหรือนิมิตหมายอันดีที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปี ได้แต่หวังว่าปีใหม่ฟ้าใหม่ ความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวงจะลดลงหรือหมดไปได้เลยยิ่งดี เชื่อว่าเรื่องนี้คงเป็นข่าวดีของประชาคมโลกด้วยเช่นกัน ได้แต่หวังว่าหลังจากนี้คงจะมีการต่อยอดให้ดีขึ้นๆไปเรื่อยๆ โดยเรื่องนี้เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี โดยได้รายงานข่าวมาจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ในวันนี้ (31 ธันวาคม 2567) ว่ารัสเซียและยูเครน แลกเปลี่ยนนักโทษสงครามมากกว่า 300 คน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หรือก่อนวันสิ้นปี โดยมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทำหน้าที่เป็นคนกลาง โดยทางการของทั้งสองประเทศ แลกเปลี่ยนทหารที่ถูกจับเป็นเชลยหลายร้อยนาย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อเดือน ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทหารรัสเซีย 150 นาย
ถูกส่งตัวกลับจากดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเคียฟ และทหารยูเครน 150 นาย ที่เป็นนักโทษสงครามในรัสเซีย ก็ถูกส่งตัวกลับประเทศเช่นกัน อันเป็นผลจากกระบวนการเจรจา
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุ ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลเคียฟรับตัวประชาชน 189 คน ตามส่วนหนึ่งของข้อตกลง ซึ่งรวมถึงทหาร เจ้าหน้าที่รักษาชายแดน และพลเรือน 2 คน จากเมืองมาริอูโปลที่ถูกรัสเซียยึดครอง เรากำลังทำงานเพื่อปล่อยทุกคนจากการคุมขังของรัสเซีย นี่คือเป้าหมายของพวกเรา และเราไม่ลืมใครทั้งนั้น เซเลนสกี กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ ยูเครนระบุเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลมอสโกปล่อยตัวผู้คนรวม 3,956 คน ซึ่งมีทั้งทหารและพลเรือน ในข้อตกลงกับรัฐบาลเคียฟ นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายระบุว่า การแลกเปลี่ยนเชลยสงครามครั้งล่าสุดนี้ มียูเออี เป็นคนกลาง



















