แม่เลี้ยงเดี่ยวอเมริกันยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูบุตรถูกปฎิเสธ เพราะ DNA ไม่ตรงกับลูกทั้งสามคน ทั้งที่เป็นแม่ตัวจริง
ในสหรัฐอเมริกา มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งที่ประสบปัญหาหนักใจหลังจากยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูเด็ก เมื่อสองปีก่อน เธอได้ยื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือ แต่เมื่อมีการตรวจ DNA กลับพบว่าเธอไม่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมกับลูกทั้งสองคนเลย ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเธออาจจะเป็นแม่ที่ใช้วิธีการตั้งครรภ์แทน หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเด็กเพื่อหวังผลประโยชน์จากเงินช่วยเหลือ
ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย เธอได้คลอดบุตรคนที่สาม แต่ผลการตรวจ DNA ก็ยังคงแสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้ก็ไม่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมกับเธอเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนและน่าสงสัยมากขึ้นไปอีก
หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ทีมแพทย์และนักวิจัยพบว่า สาเหตุที่ทำให้ผลตรวจ DNA ของเธอกับลูกไม่ตรงกันนั้น เกิดจากสภาพทางพันธุกรรมที่หายาก ซึ่งเรียกว่า "ความไม่สอดคล้องระหว่างแม่และลูก" ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็มีอยู่จริงในวงการแพทย์
เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คน แต่ยังเปิดประเด็นเกี่ยวกับความถูกต้องและความเป็นธรรมในการใช้การตรวจ DNA ในกระบวนการทางกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กและการขอรับเงินช่วยเหลือ ซึ่งควรมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดเช่นนี้ในอนาคต
เรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความซับซ้อนของชีวิตและระบบกฎหมาย ที่บางครั้งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ง่าย การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับพันธุกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถปกป้องสิทธิของผู้คนได้อย่างเหมาะสม และสร้างความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายต่อไป