อุทาหรณ์! เหตุเกิดขึ้นเพราะฉีดฟิลเลอร์…สิ่งที่สาวๆควรรู้!
เทรนด์ความงามล่าสุดที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักความสวยความงามกำลังถูกแพทย์วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายถึงชีวิต ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการรักษาถุงใต้ตาด้วย “เมโสเทอราพี” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ตั้งแต่เนื้อเยื่อตาย (necrosis) ไปจนถึงการสูญเสียการมองเห็นถาวร
“ความเสี่ยงจากเมโสเทอราพีใต้ตานั้นมีมากกว่าผลข้างเคียงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้รับการรักษาไปหาผู้เชี่ยวชาญที่ขาดประสบการณ์หรือทำการรักษาเองที่บ้าน” ดร.วิกตอเรีย คาซลูสกายา แพทย์ผิวหนังในนิวยอร์ก กล่าวกับ Daily Mail
กระบวนการเมโสเทอราพีถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดยแพทย์ชาวฝรั่งเศส ดร.มิเชล พิสตอร์ ในปี 1952 เพื่อรักษาปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นกระแสความงาม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ด้วยแรงกระตุ้นจากวิดีโอไวรัลใน TikTok ที่แสดงผลลัพธ์ของการรักษาถุงใต้ตาด้วยเมโสเทอราพี
มีข่าวลือว่าเหล่าคนดังอย่างเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ซึ่งเคยเป็นกระแสไวรัลในปี 2023 จากการทำทรีตเมนต์หน้าใสด้วย “สเปิร์มปลาแซลมอน” อาจเคยลองฉีดเมโสเทอราพีในบางส่วนของร่างกายด้วย
กระบวนการนี้ทำให้เกิดปุ่มนูนคล้ายฟองอากาศรอบดวงตาในช่วงแรก ก่อนที่ผิวจะกลับมาเรียบเนียน Trolls บนโลกออนไลน์มักเปรียบเทียบรอยนูนเหล่านี้กับผิวสัตว์เลื้อยคลาน หรือบางครั้งถึงขั้นเรียกว่า “ชิชารอนที่ไม่สวย“ แม้ว่าบางคนจะมองว่าเมโสเทอราพีเป็นวิธีแก้ปัญหาถุงใต้ตาที่ไม่เจ็บปวดและฟื้นตัวเร็ว แต่ในความเป็นจริง ผลข้างเคียงบางอย่างกลับไม่หายไปง่าย ๆ
“ผู้ป่วยอาจประสบปัญหาช้ำรุนแรง การแพ้แบบรุนแรง เนื้อตายจากการฉีดผิดตำแหน่งในหลอดเลือด หรือแม้แต่การสูญเสียการมองเห็นถาวร” ดร.คาซลูสกายาเตือน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดก้อนกรานูโลมา (granuloma) ซึ่งเป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารแปลกปลอม
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ยังไม่ได้อนุมัติการใช้เมโสเทอราพี แม้ว่าส่วนผสมบางตัวในกระบวนการนี้จะผ่านการรับรองก็ตาม ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยอาจไม่ทราบถึงส่วนผสมที่แน่นอนในแต่ละโดส บางบริษัทจำหน่ายของเหลวเมโสเทอราพีทางออนไลน์ในราคาตั้งแต่ 45 ถึง 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ และยังมีบางคนที่ผสมของเหลวเองและฉีดด้วยตัวเอง โดยมีวิดีโอสอนใน TikTok เป็นตัวอย่าง
ตามข้อมูลจาก Mayo Clinic การเกิดถุงใต้ตาอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการสูบบุหรี่
ดร.นีรา นาธาน แพทย์ผิวหนังที่ได้รับการฝึกฝนจากฮาร์วาร์ด แนะนำว่า การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนสามารถช่วยลดอาการบวมได้ โดยคาเฟอีนจะช่วยบีบหลอดเลือด ทำให้อาการบวมหายไปในเวลาไม่กี่นาที
ในท้ายที่สุด แม้เทรนด์ความงามใหม่ ๆ จะดูน่าสนใจ แต่การเลือกวิธีการที่ปลอดภัยและมีหลักฐานรองรับยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ที่มา: New York Post