นักท่องเที่ยวถูกขโมยกระเป๋าในห้างไทย ต้องตามคนร้ายจากสัญญาณไอพอด ก่อนตำรวจจะจับตัวได้ พบเป็นชาวอินโดฯ ที่มาทำงานในไทย 😏
เรื่องราวของคู่รักนักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์เเลนด์ ชื่อเมารีและซาสเกีย ที่มาเที่ยวในไทยแต่โชคร้ายถูกขโมยกระเป๋าไปขณะที่ทั้งคู่นั่งกินข้าวอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ข้างในกระเป๋าของเขามีไอพอดอยู่ จึงสามารถตรวจสอบสัญญาณได้ เขาตามคนร้ายด้วยตัวเองพร้อมโทรแจ้งตำรวจ
คนร้ายเดินทางไปห้างอีกที่หนึ่งในย่านบางกะปิ และใช้เวลาอยู่ในห้างนานพอสมควร เมารีได้เดินไปขอดูกล้องวงจรปิดจากรภป. แต่ก็ไม่พบเพราะกล้องหลายตัวเสีย และบางตัวก็เช็กคลิปย้อนหลังไม่ได้ เขาทั้งสองจึงเดินสุ่มหาคนร้ายด้วยตัวเองในห้าง
เวลาผ่านไปตำรวจได้โทรหาเขาบอกว่ากำลังไปหา แต่สุดท้ายตำรวจบอกว่าทำอะไรนอกจากนี้ไม่ได้เพราะมันอยู่นอกเหนือเขตความรับผิดชอบ บวกกับสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่มาจัดการต่อ
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอ เพราะอาจจะไม่ทันการก็ได้ เเต่ทั้งสองต้องกลับไปรอที่เกิดเหตุ เพราะตำรวจชุดใหม่ให้รออยู่ที่นั่น เมื่อไปถึงสัญญาณไอพอดก็เตือนอีกครั้ง ซาสเกียคิดว่าคนร้ายน่าจะอยู่ที่บ้านแล้ว
พวกไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องบุกเข้าไปในบ้านคนร้ายเพื่อเอาของตัวเองคืนหรือไม่ เหมือนสะท้อนออกมาว่า การติดตามคนร้ายควรเป็นหน้าที่ตำรวจหรือเปล่า หรืออย่างน้อยก็ช่วยมาอำนวยความสะดวกก็ยังดี ซึ่งเธอมั่นใจว่าคนร้ายน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง 😌
เมื่อตำรวจมาถึงที่นัดหมาย เมารีก็เดินทางไปกับตำรวจตามสัญญาณไอพอด สุดท้ายเจอคนร้ายเป็นชาวชาวอินโดนีเซียที่มาทำงานในไทย ซึ่งสื่อสารภาษาไทยได้ เขาบอกว่าครอบครัวยากจนมาก จะเอาของที่ได้มาไปขายในอินโดเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก 🙂↔️
เมารีบอกว่าเขารู้สึกผสมปนเปไปหมด เขาไม่ได้โกรธและเข้าใจว่าต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว และขอร้องให้ตำรวจอย่าขังชายคนนี้ แต่คนร้ายต้องขึ้นศาลอีกสองวันเเละอาจจะต้องส่งกลับประเทศ ซึ่งตำรวจจะอัพเดตความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้เห็นการก่ออาชญากรรมจากคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย ที่สร้างความเสียหายให้กับคนไทยมาหลายครั้ง และเรายังได้เห็นปัญหาของระบบราชการไทย ที่ต่างคนต่างปัดความรับผิดชอบเพียงเพราะอยู่นอกพื้นที่ที่ตัวเองดูเเลอยู่ 🙂↔️
https://www.tiktok.com/@chirawut_shop/video/7451421353615445255