เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด ร้อยละ 720 ถูกจับคาหนังคาเขา!
ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้เดินหน้ากวาดล้างและจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดเกี่ยวกับ หนี้นอกระบบ ที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงและเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยล่าสุดสามารถจับกุม เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ในอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีพฤติการณ์เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 พ.ต.ท.อุดม อิสโร สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมด้วยชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบพบผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อบัญชี “น้ำตา คนโสด” มีการโพสต์ชักชวนประชาชนให้กู้ยืมเงิน โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่พบว่าเจ้าของบัญชีดังกล่าวคือ เจ๊แหม่ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ซึ่งดำเนินกิจการปล่อยเงินกู้นอกระบบในพื้นที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอหมายค้นจากศาลแขวงกระบี่ เพื่อตรวจค้นบ้านพักของเจ๊แหม่ม
ในการเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ๊แหม่ม เจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ เช่น:
เอกสารการโพสต์ชักชวนในโซเชียลมีเดีย
ข้อมูลการกู้ยืมเงินของลูกหนี้หลายราย
หลักฐานการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
จากการสอบสวน เจ๊แหม่มยอมรับสารภาพว่าได้ดำเนินกิจการปล่อยเงินกู้มานานกว่า 3-4 ปี โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินกฎหมายกำหนด คือ ร้อยละ 20 ต่อสัปดาห์ หรือร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 720 ต่อปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากลูกหนี้รายใดชำระหนี้ล่าช้า หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ จะถูกข่มขู่และทำร้ายร่างกาย โดยในบางกรณีถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับลูกหนี้และชุมชน
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ๊แหม่มในความผิดฐาน:
1. ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน
2. เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
หลังแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเจ๊แหม่มส่งพนักงานสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรอ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปัญหาเงินกู้นอกระบบเป็นปัญหาใหญ่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตชนบทหรือชุมชนที่ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิทางกฎหมาย รวมถึงมีความจำเป็นทางการเงินสูง จนต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงเกินจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเร่งรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของการกู้ยืมเงินนอกระบบ พร้อมทั้งแนะนำให้ใช้บริการจากแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย เช่น ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรอง
1. ตรวจสอบแหล่งเงินกู้: ควรตรวจสอบว่าแหล่งเงินกู้มีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่
2. ศึกษาเงื่อนไข: อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระเงินให้ชัดเจน
3. หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินจากบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ: เช่น แหล่งเงินกู้ที่ไม่มีสำนักงานหรือตัวตนที่ชัดเจน
4. แจ้งเบาะแส: หากพบเห็นการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงจาก: ตำรวจไซเบอร์