"คื่นฉ่าย" ลดน้ำหนักได้ แต่เสี่ยงเป็นโรคไต
"คื่นฉ่าย" เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยคื่นฉ่าย 100 กรัม จะมีน้ำอยู่เกือบ 95% ซึ่งจะมีวิตามิน โปรตีน และ แร่ธาตุอื่นๆอีกมากมาย นักโภชนาการจึงออกมากล่าวแนะนำ ให้รับประทานคื่นฉ่ายเป็นประจำทุกวัน อย่างพอเหมาะ ไม่ใช่ว่าบริโภคมาเกินไป เพียงเพราะว่ามันสามารถลดน้ำหนักได้ดี เนื่องจากคื่นฉ่าย เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากบริโภคมากเกินไปนั่นเอง...
ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในไต
ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในไต ควรจำกัดการกินหรือดื่มคื่นฉ่าย เนื่องจากมีออกซาเลตในปริมาณสูง เมื่อออกซาเลตรวมกับแคลเซียมในร่างกาย จะเกิดผลึกแคลเซียมออกซาเลต ส่งผลให้นิ่วในไตแย่ลง อีกทั้งออกซาเลตยังดูดซับและทำให้แคลเซียมเจือจาง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกระดูกและข้อต่อของมนุษย์
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ
คื่นฉ่ายเป็นอาหารที่ดีมาก สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง แต่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ เมื่อดื่มน้ำคื่นฉ่าย ความดันโลหิตจะไม่คงที่ และ อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงกะทันหันแทน ดังนั้นผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ จึงไม่ควรดื่มน้ำคื่นฉ่ายโดยเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง ที่ไม่พึงประสงค์...
ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง
คื่นฉ่ายมีสารเคมีโซราเลน ซึ่งทำปฏิกิริยากับแสงแดด สารนี้อาจเพิ่มความไวของผิวหนัง ต่อรังสีอัลตราไวโอเลต และ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคผิวหนัง ดังนั้นขึ้นฉ่ายจึงไม่ใช่อาหารที่เหมาะกับ ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังบางชนิด เช่น คันผิวหนัง แผลในกระเพาะอาหาร หรือ โรคสะเก็ดเงิน...
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
ในคื่นฉ่าย 40 กรัม จะมีโซเดียมประมาณ 30 มิลลิกรัม จึงมีปริมาณเกลือค่อนข้างสูงสำหรับผัก และ ขณะเดียวกันผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ก็ต้องใส่ใจกับปริมาณโซเดียม ที่ต้องบริโภค ดังนั้น หากกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ จะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวในร่างกาย ทำให้อาการแย่ลง อย่างจริงจัง
ผู้ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอ
สัญญาณที่พบบ่อยของคนกลุ่มนี้คือ หน้าเหลือง ง่วงซึม เบื่ออาหาร ปวดท้องช่วงบน ท้องอืด อาเจียนเปรี้ยว อุจจาระแตก ลิ้นซีด... และ ขณะเดียวกันคื่นฉ่ายเองก็เป็นผัก ที่ให้ความเย็น ดังนั้น เมื่อรับประทานก็สามารถรับประทานได้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพ
ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดมา
ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด ไม่ควรรับประทานขึ้นฉ่ายโดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางได้ และ จะมีผลข้างเคียงกับยาชา ที่ใช้หลังการผ่าตัดด้วย ดังนั้นผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดโดยเฉพาะการผ่าตัดผ่านกล้อง ควรหลีกเลี่ยงการกินขึ้นฉ่าย ประมาณ 2 สัปดาห์...
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ในระยะเริ่มแรก
คื่นฉ่ายไม่ใช่ผักที่ดีสำหรับสตรีมีครรภ์ เพราะสามารถกระตุ้นให้มดลูกหดตัว จึงส่งผลเสียต่อการคลอดบุตรในอนาคต โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งครรภ์ยากหรือสตรีมีครรภ์ ที่มีอาการแท้งควรงดผักชนิดนี้
ผู้ชายในวัยเจริญพันธุ์
สำหรับผู้ชาย หลังจากรับประทานคื่นฉ่ายมาหลายวัน จำนวนอสุจิจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่งผลทำให้น้ำอสุจิไม่มีตัวอสุจิ ซึ่งจะทำให้ผู้หญิงไม่ตั้งครรภ์ แต่หลังจากหยุดกินคื่นฉ่ายไป 2-3 สัปดาห์ อสุจิจะกลับมาเป็นปกติ...













