จับกุมแล้ว !!! แม่บ้านรับจ้างดูแลคนชรา ไม่ดูแลไม่พอ ทุบตีกว่าอีก 30 ครั้ง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำการจับกุมแม่บ้านสาววัย 30 ปี ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ หลังจากที่เธอถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายหญิงสูงวัยอายุ 85 ปี ที่เธอรับหน้าที่ดูแลในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้รับการรายงานจากลูกหลานของผู้สูงอายุที่สังเกตเห็นร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำบนร่างกายของผู้สูงอายุ จึงได้ตัดสินใจแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมาย
จากการสอบสวนพบว่าแม่บ้านสาว "กระต่ายแสนกล" ซึ่งมีประวัติทำงานรับจ้างดูแลผู้สูงอายุในหลายพื้นที่ ได้ทุบตีผู้สูงอายุหญิงอย่างทารุณ โดยเธอทุบตีผู้สูงอายุหญิงถึง 30 ครั้งในช่วงเวลาที่เธอกำลังทำหน้าที่ดูแลที่บ้านของผู้สูงอายุ รายงานระบุว่าแม่บ้านสาวทำร้ายผู้สูงอายุอย่างไร้ความเมตตาและใช้ความรุนแรงจากความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นจากการไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าผู้สูงอายุมีรอยฟกช้ำและบาดแผลบริเวณใบหน้าและลำตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกทุบตีและถูกกระทำความรุนแรงโดยแม่บ้านสาว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนแม่บ้านที่ทำร้ายผู้สูงอายุ และในตอนแรกเธอพยายามปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่หลังจากการสอบสวนและการแสดงหลักฐานที่ชัดเจน เธอได้ยอมรับผิดว่าได้กระทำการทุบตีผู้สูงอายุจริง โดยอ้างว่าเธอรู้สึกหงุดหงิดและโมโหจากพฤติกรรมบางอย่างของผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เต็มที่และบางครั้งก็มีพฤติกรรมที่ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า
เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวของผู้สูงอายุ รวมทั้งสังคมโดยรวมที่มองเห็นถึงความสำคัญในการดูแลและปกป้องผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเองจากการกระทำที่อาจเป็นอันตราย การทำร้ายผู้สูงอายุถือเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ในสังคมไทยที่ยึดมั่นในค่านิยมการเคารพและดูแลผู้สูงอายุอย่างสูง
การจับกุมแม่บ้านสาวในครั้งนี้ยังทำให้เกิดการตื่นตัวในสังคมเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการถูกกระทำความรุนแรง การกระทำของแม่บ้านสาวทำให้เกิดคำถามถึงการตรวจสอบและการคัดกรองบุคคลที่ทำงานในตำแหน่งดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยหรือมีความเสี่ยงในการถูกละเมิดสิทธิ์
หลายฝ่ายได้ออกมาเรียกร้องให้มีการควบคุมดูแลการทำงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุอย่างเข้มงวด รวมถึงการตรวจสอบประวัติและความสามารถในการดูแลของผู้ที่ทำงานในอาชีพนี้ เนื่องจากในบางกรณีการดูแลผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราหรือในบ้านพักผู้สูงอายุที่มีการจ้างแม่บ้านหรือผู้ดูแลส่วนบุคคล อาจไม่สามารถทำการตรวจสอบได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์เช่นนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้สูงอายุแก่แม่บ้านสาวในข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดแผลและบาดเจ็บอย่างรุนแรง ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้ส่งผลให้ผู้สูงอายุหญิงได้รับความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้มีการลงโทษอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
จากเหตุการณ์นี้ยังได้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุในสังคมไทย รวมถึงการให้ความรู้แก่บุคคลที่ทำงานในบทบาทดูแลผู้สูงอายุว่าการดูแลนั้นต้องเต็มไปด้วยความรักและเมตตา ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายหรือกระทำความรุนแรง หากพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการดูแลผู้สูงอายุ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีการตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต.