นายก “ อุ้งอิ้ง ” ควงรมต.- สามี ลุยน้ำท่วมเมืองคอน คอหวยเล็งทะเบียนนายก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย,ปลัดมหาดไทย,อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยนายกฯและคณะออกเดินทางด้วยเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้าย กองทัพบก ดอนเมือง เวลา 13.00 น.ถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช แล้วเดินทางต่อไปศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยรถยนต์ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้
โดยนายกรัฐมนตรี ฟังบรรยายสรุปแล้วที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมสั่งกำชับ จนท.ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ จากนั้น น.ส.แพรทองธาร ฯ เดินทางลงพื้นที่น้ำท่วม โดยเปลี่ยนขึ้นรถยนต์ ปภ.สีส้ม ยี่ห้อไทยรุ่ง ทะเบียน นข - 2933 กทม.ออกจากศาลกลางจังหวัดฯ ไปเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยชุมชนท่าโพธิ์ ซอย10 ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น โดยนายกอุ้งอิ้ง ไกล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกคน พร้อมกับบอกว่ารัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่โดยนายกอุ้งอิ้ง ขอให้ผู้ประสบภัยไปลงทะเบียนผู้ประสบภัยที่ อบต.หรือ เทศบาล แล้วรัฐจะเร่งจ่ายเงินเยียวยา 9000 บาท โดยเร็ว ก่อนที่ น.ส.แพรทองธาร นั่งเรือท้องแบนนำถุงยังชีพแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วมถึงประตูบ้านประมาณ 100 เมตร ก่อนเลี้ยวเรือกลับมาแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยที่รอต้อนรับจำนวนมาก ก่อนเดินทางต่อ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย
ขณะที่เวลา15.00 น.วันเดียวกัน มีผู้พบศพผู้เสียชีวิตชายไม่ทราบชื่อจมอยู่ในน้ำท่วมติดเสาไฟฟ้า ซอยท่าขนอน 8 ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อและสาเหตุการเสียชีวิต อยู่ระหว่างชันสูตรในที่เกิดเหตุ
สำหรับก่อนหน้านี้พบศพจมน้ำเสียชีวิตและถูกไฟซ๊อตจากน้ำท่วมแล้ว 9 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตจากเหตุจมน้ำครั้งนี้แล้ว 11 ราย รายแรกนายบุญชู อายุ 69 ปี ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง เดินลุยน้ำลื่นจมน้ำในคูน้ำสวนยางพารา รายที่ 2 นายนิพนธ์ อายุ 76 ปี ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง หาปลาแล้วลื่นจมท่อระบายน้ำเสียชีวิต รายที่ 3 นายพีรวิชญ์ อายุ 27 ปี พนักงานการไฟฟ้าชำนาญการระดับ 4 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจสอบแก้ไขระบบไฟฟ้า หมู่ 3 ต.ชะอวด อ.ชะอวด แล้วถูกไฟช๊อตเสียชีวิต รายที่ 4 นายจรวย อายุ 77 ปี อยู่บ้านหมู่ 4 ต.กำแพงเซา อ.เมืองนครศรีธรรมราช เสียชีวิตจมน้ำท่วมบ้าน รายที่ 5 นายสมัย อายุ 77 ปี อยู่บ้านหมู่ 4 ต.นาทราย อ.เมือง ผุ้สูงอายุพิการทางการเคลื่อนไหวลื่นจมน้ำเสียชีวิต รายที่ 6 นายรัฐพล อายุ 31 ปี ถูกไฟฟ้าช๊อต ขณะเดินลุยน้ำไปที่รถแล้วมือไปจับเสาไฟฟ้าที่รั่ว บนถนนเอกนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง รายที่ 7 นายสุทธิชัย อายุ 45 ปี อยู่บ้านต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จมน้ำเสียชีวิต ,รายที่ 8 นายวันชัย อายุ 51 ปี ถูกไฟดูด และล่าสุดวันนี้พบชายไม่ทราบชื่อจมอยู่ในน้ำในซอยท่าขนอน 8 ต.ในเมือง อ.เมือง รายที่ 9 นายพหล อายุ 63 ปี จมน้ำเสียชีวิตในซอยทุ่งปรัง 7 หมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม รายที่ 10 น.ส.เผียน อายุ 83ปี จมน้ำเสียชีวิตในบ้านพักหมู่ 2 ต.นาสาร อ.พระพรหม และวันนี้รายที่ 11 ชายไม่ทราบชื่อจมน้ำในซอยท่าขนอน 8 ต.ในเมือง อ.เมือง รวมผู้เสียชีวิตเหตุการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราช รวม 10 ราย มีพื้นที่ประสบภัย 21 อำเภอ จากทั้งหมด 23 อำเภอ รวม 143 ตำบล 1,223 หมู่บ้าน 59 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด จำนวน 115,722 ครัวเรือน รวม 335,440 คน สำหรับสถานศึกษาส่วนใหญ่โรงเรียนสั่งปิดจนถึงวันที่ 18 ธ.ค.67 มีสถานศึกษาทั้งหมด 921 แห่ง ได้รับผลกระทบและปิดเรียน 565 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 61.35 ครูได้รับผลกระทบ 1,573 ราย นักเรียน 22,056 ราย สถานศึกษาถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงจำนวน 10 แห่ง
ส่วนบรรยากาศช่วงเย็นที่บริเวณลานกีฬาเอนกประสงค์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ถนนยมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งโรงครัวทำข้าวกล่องแจกผู้ประสบภัย เบื้องต้นนำร่องใน 6 อำเภอ 8 จุด ที่ได้รับความเสียหายและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 2 จุด อำเภอพระพรหม 1 จุด อำเภอร่อนพิบูลย์ 1 จุด อำเภอฉวาง 2 จุด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ 1 จุด อำเภอพิปูน 1 จุด โดยมีผู้ประสบภัยเข้ารับอาหารกล่องอย่าง
ขณะเดียวกันทหารกองทัพภาคที่ 4 ร่วมกับ คุณกัน จอมพลัง ลงพื้นที่น้ำท่วมด้วยเรือท้องแบน และเจ็ทสกี ขนย้ายผู้ป่วย และเด็กทารก และผู้ป่วยติดเตียง 3 ราย พื้นที่หมู่ 8 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ออกจากพื้นที่น้ำท่วม ส่งยังบ้านญาติ และส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
ส่วนช่วงค่ำชุดเรือที่ 2 ทหารกองทัพภาคที่ 4 นำรถรับส่งรับส่งผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ พร้อมมอบถุงยังชีพ และเคลื่อนย้ายนำศพนายสมพร แคล้วอ้อม ออกจากวัดโพธิ์เสด็จ ที่ถูกน้ำท่วม ไปตั้งบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจที่เมรุ วัดใหญ่ชัยมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มีชาวบ้านผู้ประสบภัยจำวนมาก ลุยน้ำท่วม รอต้อนรับด้วยความอบอุ่น พร้อมส่องทะเบียนรถยนต์ทั้ง 2 คันที่นายกฯนั่งปฏิบัติภารกิจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นรถยนต์ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช และ ทะเบียน นข - 2933 กทม.





















