ญาติขอความเป็นธรรม! เชื่อวิญญาณเหยื่อ 3 ศพ ยังห่วง หลังสาวซิ่ง BMW ไม่ยอมไกล่เกลี่ย
วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุสะเทือนใจ กรณี สาวขับรถเก๋ง BMW พุ่งชนแม่และลูกเสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิดบนสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เมื่อคืนวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ คู่กรณีไม่ยอมมาตามนัดเจรจาค่าเยียวยา ทำให้การเรียกร้องค่าเสียหายล่าช้า ในขณะที่คดีอาญายังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งตำรวจคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้อัยการภายในระยะเวลา 3 เดือน
ในเวลา 13.00 น. ของวันเดียวกัน พันตำรวจโท ปรินทร โชติ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ได้นำ นายประกฤษณ์ รัตนภา อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นสามีและพ่อของผู้เสียชีวิต พร้อมกับญาติ เข้าพบ นายณัฐพงษ์ บุญทองคง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชุมพร เพื่อปรึกษาแนวทางการดำเนินการทางกฎหมายในคดีแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจาก นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี ผู้ก่อเหตุ
นายประกฤษณ์เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวได้มายื่นหนังสือต่ออัยการเพื่อขอให้ช่วยเชิญคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง หลังจากที่ฝ่ายคู่กรณีเบี้ยวนัดเจรจาหลายครั้ง โดยครั้งนี้ได้มีการนัดหมายเจรจาในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่ตนให้กับคู่กรณีเพื่อพูดคุยและหาข้อยุติร่วมกัน
นายประกฤษณ์กล่าวว่า หากฝ่ายคู่กรณีไม่มาตามนัดครั้งนี้ จะเป็นผลเสียกับฝ่ายเขาเอง เพราะตนเปิดโอกาสให้มาหลายครั้งแล้ว เรื่องคดีอาญานั้นตำรวจยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนให้อัยการเพื่อฟ้องในศาลได้ภายใน 3 เดือน ส่วนคดีแพ่งนั้นต้องมีการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อเรียกค่าเสียหาย ซึ่งในเบื้องต้นครอบครัวได้เรียกร้องเป็นจำนวนเงิน 25 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายประกฤษณ์ยังกล่าวถึงเหตุการณ์สะเทือนใจที่มีชาวบ้านเห็นวิญญาณเด็กในชุดนักเรียนมาปรากฏตัวใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงวิญญาณภรรยาและลูก ๆ อย่างมาก แต่ตนได้ทำพิธีเชิญวิญญาณทั้งหมดมาสถิตอยู่ที่มูลนิธิชั่วคราว จนกว่าคดีความทุกอย่างจะยุติลง จึงจะดำเนินการจัดพิธีกรรมทางศาสนาให้สมบูรณ์
ด้าน นายสุวิทย์ เพชรทองไทย ลุงเขยของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของคู่กรณีที่ไม่ยอมมาพูดคุย ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวเปิดโอกาสให้หลายครั้งเพื่อหาข้อยุติอย่างสันติ เพราะการพูดคุยกันจะช่วยให้ความทุกข์ในใจของครอบครัวลดลงบ้าง เขากล่าวว่า
"เราไม่ได้ต้องการให้คู่กรณีติดคุก แต่ต้องการให้มาพูดคุยกันเพื่อหาข้อยุติ ถ้าไม่คุยกัน ทุกอย่างก็จะไม่จบ เราเรียกไป 25 ล้านบาท ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจ่ายเต็มจำนวน แต่ต้องมาคุยกันก่อนว่ารับได้แค่ไหน"
นายณัฐพงษ์ บุญทองคง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ เปิดเผยว่า ทางสำนักงานอัยการจังหวัดชุมพรจะทำหนังสือเชิญคู่กรณีให้มาพบและเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยการไกล่เกลี่ยครั้งนี้จะทำควบคู่ไปกับการดำเนินคดีอาญา ในกรณีที่คู่กรณีไม่มาตามนัด ผู้เสียหายยังสามารถร้องขอให้อัยการเชิญตัวมาเจรจาได้อีกครั้ง
หากยังไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ผู้เสียหายสามารถฟ้องคดีแพ่งควบคู่กับคดีอาญาได้ ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นการพิจารณาโดยศาล
ในวันเดียวกันนี้ นายพรหมมินท์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายประกฤษณ์และครอบครัว พร้อมให้ความมั่นใจว่าจะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียหายได้รับความยุติธรรมและความเป็นธรรมอย่างเต็มที่