สถาบันอุดมศึกษาในสหรัฐ ต่างแนะนำให้นักศึกษาต่างชาติเดินทางกลับเข้าสหรัฐก่อนทรัมป์รับตำแหน่ง เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคนเข้าเมือง
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในวันนี้ (9 ธันวาคม 2567) ว่าสถาบันอุดมศึกษาในสหรัฐ ต่างแนะนำให้นักศึกษาต่างชาติซึ่งเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงนี้ เดินทางกลับมาก่อนวันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ และอาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายคนเข้าเมืองอย่างฉับพลัน โดยมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐ รวมถึงสถาบันชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย มหาวิทยาลัยควินนิปิแอก และมหาวิทยาลัยคอร์เนล ส่งอีเมลถึงนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางกลับไปแล้ว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสต่อเนื่องจนถึงปีใหม่ ว่ามหาวิทยาลัยแนะนำให้นักศึกษาเดินทางกลับ ก่อนการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. 2568
ทั้งนี้ สถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ แนะนำให้นักศึกษาต่างชาติเดินทางกลับเข้ามา ก่อนวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนใหม่ โดยให้เหตุผลไปในทางเดียวกัน เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนด้านนโยบายของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ที่อาจมีการใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่ช่วงแรกของการรับตำแหน่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ขั้นตอนการทำวีซ่า และกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560
ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ทรัมป์ใช้อำนาจพิเศษฝ่ายบริหาร ห้ามการเข้าประเทศของชาวอิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาต่างชาติราว 17,000 คน ในเวลานั้น แม้มีการต่อสู้อย่างหนักทางกฎหมายจากหลายฝ่าย แต่ศาลฎีกาสหรัฐพิพากษายืนคำสั่งของทรัมป์ เมื่อปี 2561
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ใช้อำนาจพิเศษฝ่ายบริหาร ยกเลิกมาตรการแบนเหล่านี้ เมื่อปี 2564 ปัจจุบัน นักศึกษาต่างชาติในสหรัฐ มาจากอินเดียมากที่สุด ตามด้วย จีน เกาหลีใต้ แคนาดา ไต้หวัน เวียดนาม ไนจีเรีย บังกลาเทศ บราซิล และเนปาล เป็นต้น