ชาวเน็ตเสียงแตก! นักศึกษาถูกห้องสมุดปรับ 3,000 บาท เหตุคืนหนังสือช้า 25 เล่ม
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียล เมื่อโพสต์ของนักศึกษารายหนึ่งถูกแชร์และกลายเป็นไวรัลในวงกว้าง หลังจากเจ้าตัวเผยว่าโดนห้องสมุดมหาวิทยาลัยเรียกเก็บค่าปรับถึง 3,000 บาท เนื่องจากคืนหนังสือช้าจำนวน 25 เล่ม ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวเน็ต ฝั่งหนึ่งกล่าวโทษนักศึกษาว่าไม่รับผิดชอบ ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าค่าปรับดังกล่าวสูงเกินไปและไม่เหมาะสมกับสถานะของนักศึกษา
จากโพสต์ดังกล่าว นักศึกษาได้ยืมหนังสือจากห้องสมุดจำนวน 25 เล่ม แต่เกินกำหนดเวลาคืนไปหลายวัน ทำให้ถูกปรับตามระเบียบของห้องสมุด ซึ่งคิดค่าปรับเป็นเงิน 5 บาทต่อเล่มต่อวัน เมื่อคำนวณรวมทั้งหมด ค่าปรับที่ต้องจ่ายสูงถึง 4,600 บาท อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยมีการกำหนด เพดานค่าปรับสูงสุดที่ 3,000 บาท นักศึกษารายนี้จึงต้องจ่ายเต็มจำนวนดังกล่าว
เจ้าของโพสต์ได้เผยว่าตนเองไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าปรับก้อนนี้ และได้พยายามขอผ่อนชำระ แต่ทางห้องสมุดไม่อนุญาต เนื่องจากไม่มีนโยบายให้ยื่นคำร้องขอผ่อนชำระค่าปรับ ส่งผลให้เจ้าตัวรู้สึกกังวลและนำเรื่องนี้มาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อขอคำแนะนำและความคิดเห็น
เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด จนกลายเป็นดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยแบ่งออกเป็นสองมุมมองหลักๆ ได้แก่:
1. ฝั่งที่เห็นด้วยกับการปรับนักศึกษา
ชาวเน็ตกลุ่มนี้มองว่า การที่นักศึกษายืมหนังสือไปแล้วไม่คืนตามกำหนดเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรายอื่นที่ต้องการใช้หนังสือเหล่านี้ในการทำงานหรือการเรียนการสอน โดยความคิดเห็นจากฝั่งนี้มีดังนี้:
“การยืมแล้วไม่คืนตามกำหนด ทำให้คนอื่นเสียโอกาสในการใช้งานหนังสือ ถ้าทุกคนทำแบบนี้ ห้องสมุดจะเป็นอย่างไร?”
“นักศึกษาควรรู้จักความรับผิดชอบ การโดนปรับเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว”
“ลองคิดดูว่าถ้าเราอยากใช้หนังสือเล่มนั้น แต่ไม่มีเพราะคนอื่นยืมไปนานๆ เราคงหงุดหงิดเหมือนกัน”
บางคนแนะนำให้นักศึกษาหาทางออกด้วยการหารายได้พิเศษเพื่อชดใช้ค่าปรับ เช่น:
“ลองหารายได้เสริมดู หรือคุยกับครอบครัวให้ช่วยแก้ปัญหานี้”
“รับจ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยได้ ไม่ควรหนีปัญหา”
2. ฝั่งที่เห็นว่าค่าปรับแพงเกินไป
อีกฝั่งหนึ่งมองว่าค่าปรับ 3,000 บาท สำหรับนักศึกษาเป็นจำนวนที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ยังไม่มีรายได้หรือมีฐานะยากลำบาก ความคิดเห็นจากฝั่งนี้ ได้แก่:
“ค่าปรับขนาดนี้ สำหรับนักศึกษาถือว่าแพงมาก น่าจะมีการผ่อนปรนบ้าง”
“ไม่ใช่ว่านักศึกษาทุกคนจะมีเงินสำรองเยอะขนาดนั้น บางคนต้องเรียนไปทำงานไปด้วยซ้ำ”
“มหาวิทยาลัยน่าจะมีมาตรการช่วยเหลือนักศึกษา เช่น การผ่อนจ่าย หรือการทำกิจกรรมชดเชย”
บางคนเสนอให้มหาวิทยาลัยพิจารณาระบบการปรับใหม่:
“น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ เช่น ให้ทำงานอาสาแทนการจ่ายค่าปรับ”
“การศึกษาควรมีความเมตตาและยืดหยุ่นมากกว่านี้”