รวยกระจุก จนกระจายเหมือนเดิม เพราะในรอบ 10 ปีมีมหาเศรษฐีรวยขึ้น 121% มีทรัพย์สินรวมกันพุ่งถึง 477 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม 2567) ว่าธนาคารยูบีเอสของสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยว่า มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีพุ่งสูงขึ้น 121% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แตะ 477 ล้านล้านบาท โดยมหาเศรษฐีกลุ่มเทคโนโลยีมีทรัพย์สินเต็มกระเป๋าเร็วที่สุด โดยเมื่อคำนวณจำนวนมหาเศรษฐีที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ พบว่าเพิ่มขึ้นจาก 1,757 คน เป็น 2,682 คน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยี เป็นกลุ่มซึ่งร่ำรวยเร็วที่สุดถึง 3 เท่า จาก 788,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 26 ล้านล้านบาท เมื่อปี 2558 เป็น 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 81 ล้านล้านบาท ในปีนี้ รองลงมาคือ มหาเศรษฐีในกลุ่มอุตสาหกรรม รายงานระบุด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2563 แนวโน้มการเติบโตทั่วโลกชะลอตัวลงเหลือ 1% จากการลดลงของมหาเศรษฐีชาวจีน ขณะที่ในปีอื่น ๆ เติบโตขึ้นในอัตราต่อปี 10% ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีชาวจีน เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จาก 887,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 30 ล้านล้านบาท เป็น 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 71 ล้านล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ลดลงเหลือ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 61 ล้านล้านบาท ด้านความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีในอเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 58.5% เป็น 6.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 207 ล้านล้านบาท มาตั้งแต่ปี 2563 ในปี 2567 มีผู้คนราว 268 คน ที่กลายเป็นมหาเศรษฐีเป็นครั้งแรก โดย 60% เป็นผู้ประกอบการ และเศรษฐีจากสหรัฐรวยขึ้นที่สุดถึง 27.6% ซึ่งมากกว่า 40% ของความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีทั่วโลก ส่วนความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ลดลง 16.8% โดยจำนวนมหาเศรษฐีลดลงจาก 588 คน เหลือ 501 คน