หนุ่มจีนลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมจากการอดอาหาร ต่อมาพบว่าตัวเองเป็นโรคไขมันพอกตับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แพทย์มีคำตอบ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นักศึกษาชายคนหนึ่งชื่อ จางซื่อ ได้ทำการลดน้ำหนักโดยการอดอาหารเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งทำให้เขาลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม แต่กลับถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไขมันพอกตับ ผู้ป่วยกล่าวว่าเขาได้ทำตามแผนการลดน้ำหนักที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยรับประทานขนมปังโฮลเกรนเพียงแผ่นเดียว ในมื้อเช้าและมื้อเย็น
ส่วนมื้อกลางวันมักจะกินแค่เมล็ดพืชบางชนิด หลังจากผ่านไป 1 เดือน จางซื่อสามารถลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม แต่ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง จึงกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจพบว่าเขามีโรคไขมันพอกตับ
แพทย์หวังเซิงเปิ่นรองผู้อำนวยการแผนกโภชนาการคลินิกของโรงพยาบาลหมายเลข 1 ในอู่ฮั่น กล่าวว่า การอดอาหารอย่างเกินไปและไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ อาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นโรคนี้ แพทย์หวังอธิบายว่า แผนการลดน้ำหนักที่เข้มงวดของจางซื่อทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสังเคราะห์และซ่อมแซมเซลล์ตับ นอกจากนี้โปรตีนยังช่วยให้การเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ปกติ
การขาดโปรตีนทำให้กระบวนการสร้างไลโปโปรตีน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยขนส่งไขมันในร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้ไขมันสะสมในเซลล์ตับและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ การอดอาหารเกินไปสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง ทำให้ร่างกายต้องเร่งการสลายไขมันเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้กรดไขมันเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น และนำไปสู่การสะสมไขมันส่วนเกินในตับ แพทย์หวังกล่าว แพทย์ยังเตือนเพิ่มเติมด้วยว่า การอดอาหารเกินไปไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไขมันพอกตับ แต่ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆได้อีกด้วย