สภาเกาหลีใต้จ่อโหวตถอดถอนปธน. เสาร์นี้ พรรครัฐบาลขวางญัตติ ขับ ‘ยุน’ พ้นพรรค
สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม รัฐสภาเกาหลีใต้ได้เสนอญัตติให้ถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งกินเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาจะผ่านญัตติยกเลิกกฎอัยการศึกในเวลาต่อมา ด้านพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุนประกาศว่าจะคัดค้านญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุน แต่หัวหน้าพรรคพีพีพีได้เชิญให้ยุนลาออกจากพรรค
บรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน เตรียมที่จะเสนอให้มีการลงมติสภายื่นถอดถอนประธานาธิบดียุนในเวลา 19.00 น.ของวันที่ 7 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยบอกว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนมีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงการถูกสอบสวนถึงการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเองและสมาชิกครอบครัว นายคิม ซึงวอน สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคประชาธิปไตยกล่าวในการประชุมสภาช่วงเช้าว่า การที่รัฐบาลของประธานาธิบดียุน ซอกยอลประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกได้ทำให้เกิดความสับสนและหวาดกลัวในหมู่ประชาชน
พรรคพลังประชาชนต้องการเพียง 8 เสียงจากสมาชิกของพรรคพีพีพีในสภาที่มีทั้งหมด 108 ที่นั่งเพื่อผ่านญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุนซึ่งต้องใช้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของรัฐสภาเกาหลีใต้ที่มีทั้งหมด 300 ที่นั่ง หากรัฐสภาผ่านญัตติถอดถอดสำเร็จ ยุนจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีชั่วคราวเพื่อรอคำตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับญัตติดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้อาจกินเวลานานถึง 180 วัน โดยในช่วงดังกล่าว นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซูจะดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หากท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญผ่านญัตติถอดถอนยุนหรือยุนลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน
ด้านประธานาธิบดียุนยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลยนับตั้งแต่การประกาศกฎอัยการศึก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่าประธานาธิบดียุนจะไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในวันที่ 5 ธันวาคม หลังมีรายงานว่าพรรคฝ่ายค้านจะมีมติถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่งในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้เปิดเผยว่ากำลังเริ่มสอบสวนประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในข้อหาก่อกบฏ
นอกจากนั้น ประธานาธิบดียุนได้อนุมัติหนังสือลาออกของนายคิม ยองฮยอน รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งตามข้อมูลการยื่นถอดถอนประธานาธิบดียุนระบุว่านายคิมเป็นคนเสนอให้ประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึก และเป็นคนสั่งการให้มีการส่งทหารเข้าไปยังอาคารรัฐสภา ประธานาธิบดียุนได้แต่งตั้งให้นายชเว บยองฮยอก เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศซาอุดีอาระเบียดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่
นายคิม ซอนโฮ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าเขาไม่ทราบเรื่องคำสั่งกฎอัยการศึกเลยจนกระทั่งประธานาธิบดียุนได้ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ และเขาคัดค้านการระดมกำลังพลของทหารภายใต้กฎอัยการศึก พร้อมกับขอโทษและแสดงความรับผิดชอบจากการที่ไม่สามารถขัดขวางไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ผู้บัญชาการกองกำลังกฎอัยการศึกกล่าวว่าเขาไม่มีความคิดที่จะให้มีการใช้อาวุธปืนโจมตีประชาชน ขณะที่นายคิม ซอนโฮระบุว่าไม่มีการจ่ายกระสุนจริงให้กับกองกำลังดังกล่าว
การประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวซึ่งประธานาธิบดียุนอ้างว่าเพื่อเป็นการปกป้องเกาหลีใต้จากภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและอ้างว่ารัฐสภาที่พรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากได้กลายเป็นบ้านของพวกอาชญากรซึ่งพยายามที่จะทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้กลายเป็นอัมพาต ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา ประชาชนหลายพันคนได้ลงถนนประท้วงบริเวณรอบทำเนียบประธานาธิบดีและจัตุรัสกวางฮวามุนในกรุงโซล เพื่อเรียกร้องให้ยุนลาออกจากตำแหน่ง
ขณะที่พันธมิตรนานาชาติของเกาหลีใต้ออกมาแสดงความกังวล นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ทราบล่วงหน้าถึงการที่ประธานาธิบดียุนของเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก ขณะที่นายเคิร์ต แคมป์เบล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐบอกว่ายุนตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก.