"มรดกไทยสู่เวทีโลก! ยูเนสโกรับรอง 'ต้มยำกุ้ง' เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้"
ต้มยำกุ้งขึ้นแท่นมรดกวัฒนธรรมโลก! ยูเนสโกรับรอง “ต้มยำกุ้ง” เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ นายกฯ ยินดี พร้อมยกเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย
ภาพจาก Thai Food
ประเทศไทยสร้างชื่อเสียงอีกครั้งบนเวทีโลก เมื่อ "ต้มยำกุ้ง" อาหารประจำชาติที่คนทั่วโลกรู้จัก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) โดย องค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและเป็นการยกระดับ “ต้มยำกุ้ง” ให้กลายเป็นตัวแทนวัฒนธรรมอาหารไทยที่ทรงคุณค่า
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 02.15 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ในการประชุม คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 ณ กรุงอะซุนซิออง สาธารณรัฐปารากวัย ประเทศไทยเสนอชื่อ “ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนในฐานะมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
คณะกรรมการของยูเนสโกได้พิจารณาและประกาศรับรอง "ต้มยำกุ้ง" ในฐานะอาหารที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย โดยเน้นถึงความสำคัญในฐานะอาหารที่เป็นตัวแทนของภูมิปัญญาท้องถิ่น ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และศิลปะในการประกอบอาหารที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แสดงความยินดีผ่านระบบวีดิทัศน์
หลังการประกาศอย่างเป็นทางการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีผ่านระบบวีดิทัศน์ โดยกล่าวว่า:
“ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ไม่เพียงแค่ยืนยันถึงคุณค่าของต้มยำกุ้ง แต่ยังส่งเสริมให้ต้มยำกุ้งกลายเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ขอเชิญชวนประชาชนทั่วโลกให้ลิ้มลองต้มยำกุ้งทั้งจากร้านอาหารไทย หรือทดลองทำเองที่บ้าน”
นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงความสำคัญของการใช้วัฒนธรรมอาหารเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ต้มยำกุ้ง: อาหารที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทย
“ต้มยำกุ้ง” เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดในภาคกลางของประเทศไทย โดยชื่อ “ต้มยำ” หมายถึงการปรุงรสที่มีรสเปรี้ยวและเผ็ดเป็นหลัก ส่วนคำว่า “กุ้ง” เป็นวัตถุดิบหลักที่นิยมใช้ในเมนูนี้
ส่วนผสมสำคัญของต้มยำกุ้ง ได้แก่
กุ้งสด
ตะไคร้
ใบมะกรูด
หอมแดง
เห็ด
น้ำมะนาว
พริกสด
น้ำปลา
กะทิ (ในสูตรต้มยำน้ำข้น)
รสชาติของต้มยำกุ้งโดดเด่นด้วยความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม และหวานเล็กน้อย ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของสมุนไพรไทยและเครื่องปรุงรสที่สดใหม่ ทำให้เมนูนี้มีความพิเศษไม่เหมือนใคร
ต้มยำกุ้งกับบทบาท “ซอฟต์พาวเวอร์” ของไทย
ในปัจจุบัน อาหารไทยถือเป็นหนึ่งใน “ซอฟต์พาวเวอร์” หรืออำนาจเชิงวัฒนธรรมที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล ต้มยำกุ้งถือเป็นหนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมักเป็นอาหารที่ทำให้ผู้คนรู้จักประเทศไทยเป็นครั้งแรก
กระบวนการเสนอชื่อและขึ้นทะเบียน
การเสนอชื่อ “ต้มยำกุ้ง” ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย
กระบวนการพิจารณาของยูเนสโกเน้นที่ความสำคัญของวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในฐานะมรดกร่วมของมนุษยชาติ ซึ่งต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความยั่งยืน และความเชื่อมโยงกับชุมชน
หลังการประกาศขึ้นทะเบียน คนไทยแสดงความภาคภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้ โดยมีการเฉลิมฉลองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงเชิญชวนให้ทดลองทำต้มยำกุ้งด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในต่างประเทศยังมองว่านี่เป็นโอกาสทองในการโปรโมตเมนูอาหารไทยให้กับลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง