เสียงข้างมากสภาเกาหลีใต้! กดดันประธานาธิบดียุนให้ยกเลิกกฎอัยการศึก

สถานการณ์การเมืองในเกาหลีใต้ทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ผู้นำของประเทศ ออกแถลงการณ์ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เพื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องดำเนินการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มที่มีแนวโน้มฝักใฝ่เกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับประชาชนและกลุ่มสิทธิมนุษยชน รวมถึงนักการเมืองในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หลายฝ่ายมองว่าการใช้กฎอัยการศึกเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง และอาจเป็นการใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางการเมือง

รายงานจาก ยอนฮัป สื่อชั้นนำของเกาหลีใต้ ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 67 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้จำนวน 300 คน ได้เข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาและลงมติเกี่ยวกับการยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประธานาธิบดียุนประกาศใช้

ผลการลงมติปรากฏว่า สมาชิกสภาที่เข้าร่วมประชุมจำนวน 190 คน มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยอ้างอิงจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การใช้กฎอัยการศึกสามารถถูกยกเลิกได้หากได้รับเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติ

เมื่อญัตติผ่านการรับรองแล้ว สำนักงานประธานรัฐสภาได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การประกาศกฎอัยการศึกโดยประธานาธิบดียุนจะถือเป็นโมฆะ และรัฐบาลจะต้องคืนสิทธิเสรีภาพตามปกติให้กับประชาชนทันที

สถานการณ์นี้เริ่มต้นจากความไม่พอใจที่สะสมในกลุ่มประชาชนเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดียุน โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการใช้กำลังจัดการกับผู้ประท้วงที่ต่อต้านนโยบายของรัฐบาล

เมื่อมีข่าวลือเกี่ยวกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดียุนจึงตัดสินใจใช้กฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ แต่กลับสร้างความตื่นตระหนกและความไม่พอใจในวงกว้าง

นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนมองว่าการประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง เนื่องจากเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ประชาชนให้ความสำคัญกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การกระทำเช่นนี้จึงถูกมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

หลังการยกเลิกกฎอัยการศึก มีเสียงตอบรับจากประชาชนหลากหลาย โดยส่วนใหญ่แสดงความยินดีที่สภาเห็นชอบให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ซึ่งช่วยคืนความสงบเรียบร้อยและความมั่นใจให้กับประชาชนอีกครั้ง

ด้านนักการเมืองฝ่ายค้านออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การลงมติครั้งนี้เป็นชัยชนะของประชาธิปไตย และเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของเสียงประชาชนที่ไม่ยอมจำนนต่อการใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดียุนกลับมองว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มต่อต้านรัฐและกลุ่มที่ฝักใฝ่เกาหลีเหนือมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ