จคุพรแซะนายกฯ ตรรกะเพี้ยน หลังนายกฯตอบผู้สื่อข่าวว่าไม่ทอดทิ้งคนใต้เพราะสามีก็เป็นคนใต้เช่นกัน
สืบเนื่องมาจากคำตอบของนายกรัฐมนตรีที่บอกว่ามีสามีเป็นคนใต้นั้น ทางด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์วานนี้ (1 ธ.ค.67) กรณีนายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ตอบคำถามละเลยคนภาคใต้ถูกน้ำท่วม โดยโยงถึงมีสามีเป็นคนใต้ จึงไม่ได้ละเลยคนใต้ ซึ่งเป็นคนละประเด็น และเป็นตรรกะที่ถูกวิจารณ์กันยับสนั่นสังคมโชเชียล โดยนายจตุพร ระบุว่า นายกฯ ตอบคำถามนักข่าวอะไรก็ไม่รู้ น้ำท่วมเกิดวิกฤตอยู่แล้ว ยิ่งไปซ้ำเติมให้วิกฤตหนักไปอีก คำตอบแบบนี้ถ้าคนไม่มีความทุกข์ก็พอใช้พูดในรายการทอล์คโชว์ได้ แต่น้ำท่วมเป็นอารมณ์ความรู้สึกระคนทุกข์ยากของประชาชน อย่างไรก็ตาม นายกฯ ผิดพลาดในเรื่องนี้มาตั้งแต่ชักช้าน้ำท่วมเชียงราย แล้วมาซ้ำเติมอารมณ์กับ 8 จังหวัดภาคใต้ที่ท่วมหนักถึง 3 จังหวัด ซึ่งไปตอบอย่างนั้นได้หรือ นายจตุพร กล่าวว่า การจะมาเป็นนายกฯ เป็นนักการเมืองหมายเลขหนึ่ง ดังนั้นวิสัยทัศน์ต้องรู้ได้ว่า เกิดอะไร ต้องไปที่ไหน และทำอะไรก่อนและหลัง ไม่ใช่น้ำท่วมเหนือยังอภิปรายอยู่ในสภาฯ ที่กรุงเทพฯ พอน้ำท่วมใต้ก็อยู่เหนือ แล้วตอบโต้เสียงครหาว่า ถ้าละเลยคนใต้ก็ไม่แต่งงานกับคนใต้ อธิบายแบบนี้ได้ด้วยหรือ เมื่อเป็นแบบนี้ทีมที่ปรึกษาก็ช่วยกันคิดกันต่อไปเถอะ ถือเป็นวาทะศิลป์ คำคม คนฟังคงตื้นตันใจกันถ้วนหน้า แต่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเอกฉันท์กันด้วยซ้ำ ข้อความตอนหนึ่ง นายจตุพรกล่าวถึงกรณีเรือประมงไทย 3 ลำ ถูกทหารเมียนมายิง ว่า บทเรียนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็น ผบ.ทบ.และ ผบ.ทสส. เกิดเหตุการณ์แก๊งค้ายาเสพติดพม่ารบกับกองทัพไทยทางชายแดนด้านเหนือ มีการสูญเสียชีวิตหลายร้อยศพ เมื่อผู้นำเมียนมา มาเยื่อนไทย นายกฯ ไทยขณะนั้น สั่งย้าย พล.อ.สุรยุทธ์ พ้น ผบ.ทบ. ให้เหลือเพียง ผบ.ทสส. ตำแหน่งเดียว ถือเป็นการตบโชว์แสดงอำนาจนายกฯ ให้เห็น ซึ่งเมียนมาคงดีใจ แต่เป็นบาดแผลใจของทหารไทยที่ไปสู้รบกำจัดแหล่งยาเสพติดต้องถูกปลดพ้นตำแหน่ง