สื่อนอกรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำยูเครนอาจยอมเสียดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย เพื่อแลกกับสันติภาพ
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อวานนี้ (2 ธันวาคม 2567) ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำของประเทศยูเครน ได้กล่าวแสดงความประสงค์ที่จะยุติสงครามกับรัสเซียในเร็ววันนี้ และระบุว่ายูเครนสามารถกลับมามีกรรมสิทธิเหนือดินแดนที่รัสเซียยึดครองโดยผ่านการเจรจาทางการทูต ถ้าหากยูเครนได้รับการยืนยันในการเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต โดยถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของประธานาธิบดีเซเลนสกี เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ยืนกรานว่า สงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมคืนดินแดนของยูเครนที่ยึดครองไปทั้งหมด ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวสกายนิวส์ ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวว่า การทำสงครามในยูเครนสามารถยุติลงได้ หากนาโตให้การค้ำประกันความมั่นคงของยูเครนเหนือดินแดนที่รัฐบาลยูเครนครอบครองอยู่ในขณะนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงจะต้องมีการรับประกันว่ารัสเซียจะต้องไม่กลับมายึดครองดินแดนของยูเครนเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้ยึดครองดินแดนยูเครนไปแล้วราว 20% ของประเทศ โดยรัสเซียได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 รวมถึงแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซเซียในปี 2565 ที่ผ่านมา . . . หากการยุติสงครามระหว่างสองประเทสนี้เกิดขึ้นจริง ก็น่าจะเป็นที่ยินดีกับประชาคมโลก ซึ่งจะมีผลต่อสันติภาพความมั่นคงและเศรษฐกิจโดยรวมของโลกนั่นเอง