เปลื้องผ้าโชว์ชัดๆ นางแบบ 2 สีผิว มีกรุ๊ปเลือดและดีเอ็นเอ 2 ชุด เคสนี้หมอยังทึ่ง "กลืน" ฝาแฝดตัวเองเข้าไป

เทย์เลอร์ มูห์ล นางแบบสาว 2 สีผิว ผู้กลืนฝาแฝดในครรภ์ เคสทางการแพทย์สุดทึ่งในโลก

ในโลกนี้มีปรากฏการณ์ที่ยากจะอธิบายได้เกิดขึ้นอยู่เสมอ หนึ่งในนั้นคือกรณีของ เทย์เลอร์ มูห์ล (Taylor Muhl) นางแบบสาวชาวอเมริกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้มีร่างกายที่พิเศษกว่าคนทั่วไป เพราะเธอเกิดมาพร้อมกับลักษณะทางกายภาพและพันธุกรรมที่เรียกว่า "ไคเมร่า" (Chimera) ซึ่งหมายถึงการที่คนคนหนึ่งมี กรุ๊ปเลือดและดีเอ็นเอ (DNA) สองชุด รวมถึงลักษณะเด่นบนผิวหนังที่แสดงออกถึงการเป็นฝาแฝดในร่างเดียว

ภาวะไคเมร่า เป็นเงื่อนไขทางการแพทย์ที่หายาก เกิดขึ้นเมื่อตัวอ่อนในครรภ์ของฝาแฝดสองคนรวมตัวกันในระยะเริ่มต้นของการพัฒนา ส่งผลให้หนึ่งในตัวอ่อน "ดูดซึม" อีกตัวเข้าไปในร่างกาย การผสานตัวของเซลล์ทั้งสองทำให้เกิดคนเพียงหนึ่งคนที่มีเซลล์ของฝาแฝดอยู่ในร่างกายของตน

ตั้งแต่เด็ก เทย์เลอร์สังเกตเห็นว่าผิวบริเวณท้องด้านซ้ายของเธอมีสีที่แตกต่างจากผิวด้านขวา เดิมทีเธอคิดว่านั่นเป็นเพียง รอยปานธรรมดา แต่ลึกๆ เธอกลับเชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับฝาแฝดในจินตนาการของเธอ

เธอเริ่มสงสัยหนักขึ้นเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ เพราะรู้สึกว่าตัวเองอาจเคยมี น้องสาวฝาแฝด เธอมักถามแม่ว่าเธอเคยมีน้องสาวหรือไม่ แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน กระทั่งโตขึ้นและได้ดูสารคดีเกี่ยวกับ "ไคเมร่า" หรือปรากฏการณ์แฝดกลืนแฝด เธอจึงเริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับร่างกายของเธอเอง

ในที่สุดการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดทำให้เทย์เลอร์ค้นพบว่าเธอเป็น ไคเมร่า และเคสของเธอยังพิเศษกว่าคนอื่น เพราะนอกจากจะมี กรุ๊ปเลือดสองชุด และ ดีเอ็นเอสองชุด ระบบภูมิคุ้มกันของเธอยังเป็นสองระบบแยกกันโดยสมบูรณ์ภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเทย์เลอร์ในหลายด้าน เช่น

1. ภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านกันเอง
   เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเธอเป็นสองชุด เวลาเธอป่วย ภูมิคุ้มกันแต่ละชุดมักจะโจมตีซึ่งกันและกัน ทำให้อาการเจ็บป่วยรุนแรงกว่าคนทั่วไป

2. ไมเกรนและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
   เธอประสบปัญหาไมเกรนรุนแรง รวมถึงปัญหาประจำเดือนที่ไม่ปกติ

3. อาการแพ้ที่จำเพาะเจาะจง
   การทานอาหารบางชนิดทำให้ผิวด้านซ้ายเกิดอาการแพ้ทันที

4. ความไม่สมมาตรในร่างกาย
   ร่างกายของเธอด้านซ้ายมักใหญ่กว่าด้านขวา ทั้งแขน ขา และลำตัว

ปกติคนที่มีภาวะไคเมร่ามักไม่มีลักษณะเด่นที่แสดงออกภายนอก แต่กรณีของเทย์เลอร์กลับแตกต่าง เพราะผิวหนังของเธอแสดงให้เห็นถึงการรวมตัวของฝาแฝดด้วยสีผิวที่แตกต่างอย่างชัดเจนในบริเวณหน้าท้อง และนั่นทำให้เธอเป็น 1 ใน 10 เคสที่มีลักษณะพิเศษนี้ในโลก

แม้ในอดีตเทย์เลอร์จะรู้สึกไม่มั่นใจกับร่างกายของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการโชว์บริเวณหน้าท้อง แต่ปัจจุบันเธอเรียนรู้ที่จะยอมรับความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

เธอใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับภาวะไคเมร่า เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้คน เธอกล่าวว่า "ฉันเคยรู้สึกเหมือนเป็นคนประหลาด แต่วันนี้ฉันมองว่าความแตกต่างคือสิ่งที่ทำให้ฉันมีพลัง"

จากข้อมูลของแพทย์ ภาวะไคเมร่าเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ยากมาก โดยในโลกมีรายงานเพียงประมาณ 100 กรณี และส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการภายนอก ความพิเศษของเทย์เลอร์จึงทำให้เธอเป็นกรณีศึกษาที่มีค่ามากในวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์