"เพราะอะไรวงการทีวีไทยตอนนี้ถึงระส่ำ บางช่องทีวีทยอยปลดพนักงานจำนวนมาก
ในอดีตทีวีไทยถือเป็นสื่อบันเทิงอันดับหนึ่งที่ครองใจผู้ชมทุกเพศทุกวัย ทุกบ้านมีทีวีตั้งอยู่ในห้องรับแขก และทุกเย็นครอบครัวก็รวมตัวกันหน้าจอเพื่อชมละครหรือรายการโปรด แต่ในวันนี้ภาพเหล่านั้นกำลังจางหายไป เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ชม และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อแบบดั้งเดิมอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นที่หลายช่องทีวีต้องปรับตัวครั้งใหญ่ บางช่องถึงขั้นปลดพนักงานจำนวนมากเพื่อความอยู่รอด
1. การแข่งขันที่ดุเดือดในยุคดิจิทัล
ในปัจจุบันผู้ชมมีทางเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, YouTube, และ TikTok ไปจนถึงโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทำให้ทีวีแบบดั้งเดิมสูญเสียฐานผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ผู้คนใช้เวลาดูทีวีน้อยลงและหันไปบริโภคสื่อออนไลน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่รวดเร็วทันใจมากกว่า
2. รายได้จากโฆษณาหดตัว
รายได้หลักของช่องทีวีมาจากโฆษณา เมื่อฐานผู้ชมลดลง แบรนด์สินค้าและบริการก็ย้ายงบประมาณไปลงโฆษณาในแพลตฟอร์มออนไลน์แทน ที่สำคัญคือค่าโฆษณาบนสื่อออนไลน์นั้นมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ดีกว่าและถูกกว่า
3. ต้นทุนที่สูงของการบริหารช่องทีวี
การดำเนินงานช่องทีวีแบบดั้งเดิมมีต้นทุนสูง ทั้งค่าบุคลากร ค่าอุปกรณ์ถ่ายทอดสด และค่าลิขสิทธิ์รายการ บางช่องยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในอัตราที่สูงจากการประมูลคลื่นความถี่ดิจิทัลเมื่อไม่กี่ปีก่อน เมื่อรายได้ลดลง แต่ต้นทุนยังคงอยู่ในระดับสูง การปลดพนักงานจึงกลายเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
4. การไม่ปรับตัวให้ทันสมัย
หลายช่องทีวียังคงยึดติดกับรูปแบบรายการเดิม ๆ เช่น ละครที่ใช้โครงเรื่องซ้ำซาก รายการวาไรตี้ที่ขาดความแปลกใหม่ และข่าวที่ไม่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันสื่อออนไลน์กลับสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ชมมากกว่า ทำให้ผู้ชมเลิกติดตามทีวีและเปลี่ยนไปยังแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์
5. วัฒนธรรมองค์กรที่ล้าหลัง
การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี แต่รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร บางช่องทีวีไทยยังคงบริหารงานด้วยระบบที่ล้าหลัง ไม่มีความยืดหยุ่น ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้
ทางรอดของทีวีไทยในยุคดิจิทัล
แม้ว่าทีวีแบบดั้งเดิมจะกำลังเผชิญความท้าทาย แต่โอกาสยังมีอยู่ หากสามารถปรับตัวได้ เช่น
สร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายและเจาะจง: หันมาผลิตรายการที่ตอบโจทย์ผู้ชมเฉพาะกลุ่ม
บูรณาการสื่อออนไลน์: ใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นช่องทางเสริม
ลดต้นทุน: ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการผลิตรายการเพื่อลดค่าใช้จ่าย
การศึกษาและพัฒนาบุคลากร: ฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจโลกดิจิทัลและสามารถสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ
วิกฤตที่วงการทีวีไทยกำลังเผชิญอยู่เป็นบทเรียนที่สำคัญว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและไม่มีอุตสาหกรรมใดที่ปลอดภัยจากความเปลี่ยนแปลง หากไม่ปรับตัว ย่อมเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่หากเรียนรู้และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ทีวีไทยอาจกลับมาครองใจผู้ชมในยุคดิจิทัลอีกครั้ง.