สื่อนอกรายงานว่า ในวันขอบคุณพระเจ้าแค่วันเดียว ชาวอเมริกันทิ้งอาหารมากกว่า 140,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 17,000 ล้านบาท
ข่าวน่าตกใจและน่าเสียดายนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาโดยสำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันนี้ (30 พฤศจิกายน 2567) ว่าจากข้อมูลจากรีเฟ็ด (ReFED) องค์กรไม่แสวงหากำไร ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโกของสหรัฐ คาดการณ์ว่า จะมีอาหารจำนวนมากถึง 316 ล้านปอนด์ หรือราว 143,000 ตัน ถูกทิ้งในวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเท่ากับว่า จะมีอาหารคิดเป็นมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือถ้าคิดเป็นเงินบาทก็ตกอยู่ที่ประมาณ 17,200 ล้านบาท ได้ถูกทิ้งในวันเดียว โดยในรายงานดังกล่าวระบุว่า ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่เท่ากับประเทศจีน เพื่อเพาะปลูกวัตถุดิบอาหารที่ถูกทิ้งในแต่ละปี ซึ่งการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก มากกว่าอุตสาหกรรมการบินเกือบ 5 เท่า อาหารที่ผลิตขึ้นทั่วโลกราว 1 ใน 3 ไม่เคยถูกนำมาบริโภค ขยะเหล่านี้มีปริมาณมากกว่า 1 พันล้านตันต่อปี และมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสารอินทรีย์จะปล่อยก๊าซมีเทนออกมา เมื่อเกิดการย่อยสลาย ซึ่งมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งนี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประมาณการว่า ก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ผลิตขึ้นทั้งหมดถึง 10% นั้น มาจากการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ซึ่งสูงกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการบินเกือบ 5 เท่าเลยทีเดียว . . . นี่ขนาดแค่เทศกาลเดียวยังมีอาหารเหลือทิ้งตั้งมากมายก่ายกองขนาดนี้ แล้วทั้งปีเรามีเทศกาลต่างๆกันมากแค่ไหนลองคิดดู ไม่อยากจินตนาการเลยว่าจะมีอาหารเหลือทิ้งไปมากแค่ไหน