ออสเตรเลียเสนอกฎหมาย ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปี เล่นโซเชียล พร้อมกำหนดบทลงโทษแพลตฟอร์ม ปรับสูงสุด 1,100 ล้านบาท
รัฐบาลออสเตรเลียได้เสนอกฎหมายใหม่ในรัฐสภาเพื่อห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย โดยกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ การดำเนินการนี้มีเป้าหมาย เพื่อช่วยปกป้องเด็กจากอันตราย หลังจากข้อมูลของทางการพบว่าเกือบ 2 ใน 3 ของเด็กอายุ 14 ถึง 17 ปี ดูเนื้อหาออนไลน์ที่เป็นอันตราย ทั้งการใช้ยาเสพติด การทำร้ายตัวเอง การใช้ความรุนแรงต่างๆ ร่วมถึงเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง
รัฐบาลเสนอการใช้ระบบยืนยันอายุหรือการยืนยันตัวตนผ่านเอกสารของรัฐบาล เพื่อบังคับใช้มาตรการนี้ ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่เข้มงวดที่สุดในโลก การห้ามนี้จะครอบคลุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Facebook, Instagram, TikTok, X (Twitter) และ Snapchat แต่เด็กจะยังสามารถเข้าถึงบริการอื่นๆได้ เช่น การส่งข้อความออนไลน์ การเล่นเกมออนไลน์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น Google Classroom และ YouTube รวมถึงแพลตฟอร์มสุขภาพจิตวัยรุ่นอย่าง Headspace
กฎหมายนี้จะบังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุของผู้ใช้ โดยจะต้องมีการยืนยันอายุของผู้ใช้ให้ชัดเจนก่อนการเข้าถึงบริการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี จะไม่สามารถใช้โซเชียลมีเดียได้ นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องลบข้อมูลส่วนตัวที่ได้รวบรวมจากผู้ใช้ เช่น ข้อมูลการยืนยันอายุหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบตัวตน หลังจากที่การตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เป็นเยาวชน และป้องกันไม่ให้ข้อมูลเหล่านั้นถูกเก็บไว้โดยไม่จำเป็น
ร่างกฎหมายดังกล่าวยังต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาออสเตรเลีย รวมถึงการอภิปรายและการลงมติจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติและประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยที่รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ร่างกฎหมายนี้ได้รับการเห็นชอบ