หลังจากเกิดเหตุ วางยา นักเที่ยวที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ทำให้อังกฤษประกาศว่า ว่าการแอบวางยาผู้อื่น จะถูกบรรจุเป็นความผิดทางอาญาประเภทใหม่
ในเมื่ออาชญากรรมมันเยอะนัก อังกฤษเลยขอออกกฏหมายใหม่มาปรามกันสักหน่อย โดยเป็นการเปิดเผยของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวานนี้ (25 พฤศจิกายน 2567) ว่าการแอบวางยาผู้อื่น จะถูกบรรจุเป็นความผิดทางอาญาประเภทใหม่ ตามเป้าหมายของ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย โดยสตาร์เมอร์เรียกประชุม ผู้นำตำรวจ, ผู้บริหารธุรกิจกลางคืน และหัวหน้าฝ่ายคมนาคม ในวันจันทร์ เพื่อเสริมความร่วมมือ ในการเพิ่มความปลอดภัยของสตรี และเด็กผู้หญิง ความกังวลถึงความปลอดภัยของสตรีในที่สาธารณะของสหราชอาณาจักร เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นหลังศาลตัดสินว่า ตำรวจกระทำผิดในคดีฆาตกรรมเสียเอง และยังก่อเหตุข่มขืนหญิงสาว จนเป็นข่าวดังหลายคดีในประเทศ มากไปกว่านั้น สถิติการวางยาลักษณะนี้ยังเพิ่มมากขึ้นในปี 2564 ควบคู่ไปกับการแอบฉีดยา ซึ่งมักเกิดขึ้นตามสถานบันเทิง โดยคนร้ายแอบฉีดยากล่อมประสาท และยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้เสียหายหมดสติ รัฐบาลของผมเคยให้คำมั่น ว่าจะนำท้องถนนของเรากลับคืนมา และมันจะไม่สำเร็จหากผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยในเวลากลางคืน สตาร์เมอร์กล่าว พร้อมย้ำว่า การปราบปรามการอาชญากรรมวางยาถือเป็นภารกิจหลัก โดยมาตรการต่าง ๆ จะรวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่หลายพันคน ซึ่งทำงานในธุรกิจกลางคืน เกี่ยวกับวิธีการสังเกตและจัดการกับการวางยา และในรอบ 12 เดือน จนถึงเดือน เม.ย. 2566 ตำรวจสหราชอาณาจักรได้รับรายงานการวางยา 6,732 กรณี โดย 957 กรณี เกี่ยวข้องกับการแอบฉีดยา ขณะที่การสำรวจเมื่อเดือน ธ.ค. 2565 พบว่าผู้หญิง 10% และผู้ชาย 5% เคยตกเป็นเหยื่อของการถูกวางยามาแล้ว