อดีตนางฟ้ายิมนาสติกผันตัวเป็นสตรีมเมอร์สายแซ่บ คนด่ายับ ก่อนรู้เบื้องหลังสุดเศร้าจนคนต้องเห็นใจ

เมื่อพูดถึงวงการกีฬายิมนาสติกของจีนในยุคที่ผ่านมา ชื่อของ "อู๋หลิ่วฟาง" คงเป็นหนึ่งในชื่อที่หลายคนจำได้ดี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นและความงดงามของเธอที่เคยถูกยกย่องให้เป็น "นักยิมนาสติกที่งดงามที่สุดในจีน" อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งในและนอกวงการกีฬา จนทำให้เธอตัดสินใจหันมาเริ่มต้นอาชีพใหม่ในฐานะสตรีมเมอร์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ก่อให้เกิดทั้ง

อู๋หลิ่วฟาง เกิดในปี 1994 และเริ่มต้นเส้นทางนักกีฬายิมนาสติกตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยพรสวรรค์และความตั้งใจ เธอสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกทีมชาติจีนได้สำเร็จ และคว้าแชมป์ยิมนาสติกระดับนานาชาติมาหลายรายการ ความสวยงามที่โดดเด่นของเธอยังทำให้เธอได้รับการขนานนามว่าเป็น "นักยิมนาสติกที่สวยที่สุดในจีน"

อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยมีโอกาสลงแข่งขันใน โอลิมปิก เลยสักครั้ง เนื่องจากในปี 2008 ที่ปักกิ่งเธอยังอายุน้อยเกินไป และในปี 2012 ที่ลอนดอน เธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการคัดเลือกทีมชาติ ความฝันของเธอที่จะเข้าร่วมโอลิมปิกจึงต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย

หลังอาชีพนักยิมนาสติกสิ้นสุดลง รัฐบาลได้จัดให้อู๋หลิ่วฟางทำงานเป็น โค้ชยิมนาสติกชั่วคราว ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แม้เธอจะมีความสามารถและตั้งใจทำงาน แต่กลับต้องเผชิญกับระบบที่ไม่ยุติธรรม เมื่อเธอได้รับการบอกเป็นนัยๆ ว่าหากต้องการได้ตำแหน่งงานถาวร เธอจะต้องยอมรับ "กฎลับ" ของผู้บริหาร

อู๋หลิ่วฟางปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว และเลือกที่จะลาออกจากงานนั้น แม้จะต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงในชีวิต เธอจึงตัดสินใจใช้ชีวิตเงียบๆ ห่างไกลจากวงการยิมนาสติกเป็นเวลากว่า 10 ปี

ในปีที่ผ่านมา อู๋หลิ่วฟางได้ปรากฏตัวอีกครั้งในโลกออนไลน์ในฐานะ สตรีมเมอร์ไลฟ์สด โดยเธอเลือกนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่แตกต่างไปจากภาพลักษณ์เดิม ด้วยการสวมชุดเซ็กซี่และเต้นในลักษณะที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสม การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงแรก

นักยิมนาสติกรุ่นน้องบางคนถึงกับตำหนิเธอว่า "อย่าทำให้วงการยิมนาสติกเสื่อมเสีย" กระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียของจีนเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่มองว่าเธอทำลายภาพลักษณ์ของนักกีฬาทีมชาติ

เมื่อเรื่องราวเบื้องหลังชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของอู๋หลิ่วฟางถูกเปิดเผย

สังคมเริ่มเข้าใจสถานการณ์ของอู๋หลิ่วฟาง เธอได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ มากขึ้น บัญชีโซเชียลมีเดียของเธอที่เคยมีผู้ติดตามเพียงหลักหมื่นคน กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุหลักล้านคน

หลายคนมองว่าเธอไม่สมควรถูกตำหนิ เพราะเธอเลือกที่จะไม่ยอมจำนนต่อ "กฎลับ" และยืนหยัดในการใช้ความสามารถของตัวเองในการสร้างรายได้ การทำมาหากินด้วยลำแข้งตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด และเธอก็ไม่ได้ทำร้ายใคร