"อดีตดาวโป๊วางแผนฆ่าสามีหวังฮุบมรดกแต่เรื่องพีคอยู่ในศาล"
ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่มีเรื่องราวน่าติดตามอยู่เสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญและสังคมชั้นสูง เช่นเดียวกับคดีการเสียชีวิตของ โคสุเกะ โนซากิ มหาเศรษฐีวัย 80 ปี ที่จบชีวิตอย่างปริศนาภายในบ้านพัก พร้อมเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนระหว่างเขาและ ซากิ ซูโดะ ภรรยาสาววัย 25 ปี ที่อายุน้อยกว่าสามีถึง 55 ปี
ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราว โคสุเกะ โนซากิ มหาเศรษฐีผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจของญี่ปุ่น ได้พบกับ ซูโดะ ซากิ สาวสวยที่สนามบิน ทั้งสองเกิดความประทับใจตั้งแต่แรกพบ โนซากิผู้หลงใหลในความงามและเสน่ห์ของซากิ ได้มอบเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเอาชนะใจเธอ จนทั้งสองเริ่มคบหากันในเวลาต่อมา
หลังจากออกเดตเพียงไม่นาน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน การแต่งงานครั้งนี้กลายเป็นประเด็นเมาท์ที่ร้อนแรงในวงการไฮโซของญี่ปุ่น เนื่องจากซากิถูกมองว่าเข้าหามหาเศรษฐีเพราะหวังผลประโยชน์ทางการเงิน โดยเฉพาะเมื่อมีข้อมูลเผยว่าเธอเคยมีประวัติเป็น นักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่
เพียง 3 เดือนหลังแต่งงาน โคสุเกะ โนซากิ เสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ภายในบ้านของเขาในสภาพเปลือยเปล่า การชันสูตรพลิกศพเผยว่าภายในร่างกายของเขามี ยากระตุ้นปริมาณมาก แต่ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บภายนอก
ในขณะเดียวกัน ตำรวจพบ ยาชนิดเดียวกัน เก็บอยู่ในลิ้นชักภายในห้องนอนของผู้ตาย และเริ่มตั้งข้อสงสัยในตัว ซูโดะ ซากิ ภรรยาสาวที่เพิ่งแต่งงานกับโนซากิไม่นาน
หลังแต่งงาน ชีวิตคู่ของซูโดะและโนซากิเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซูโดะรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากจากการต้องใช้ชีวิตร่วมกับสามีที่มีอายุห่างกันหลายสิบปี เธอไม่ยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเขา แต่เลือกใช้วิธีสำเร็จความใคร่ให้ด้วยมือเท่านั้น
ความตึงเครียดระหว่างทั้งคู่ยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อโนซากิเริ่มพูดถึงการย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ซูโดะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด และความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเดินหน้าสู่จุดแตกหัก ซึ่งอาจจบลงด้วยการหย่า
ในตอนนั้นเอง ซูโดะเริ่มกังวลว่าเธอจะสูญเสียรายได้รายเดือนจำนวน 1 ล้านเยน ที่โนซากิมอบให้เธอเป็นค่าครองชีพ เธอจึงวางแผนฆ่าสามีเพื่อหวังฮุบทรัพย์สินทั้งหมด
ในคืนที่โนซากิเสียชีวิต ซูโดะแอบใส่ ยากระตุ้นในปริมาณมาก ลงในอาหารค่ำของสามี เธอทราบดีว่ายาชนิดนี้จะกระตุ้นหัวใจของโนซากิจนเกิดอาการหัวใจวาย และในที่สุดเขาก็เสียชีวิตตามที่เธอวางแผน
ในช่วงแรกของการสืบสวน ตำรวจไม่สามารถจับกุมซูโดะได้เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม การสืบสวนดำเนินต่อไปอีกหลายปี จนกระทั่งในปี 2564 ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานสำคัญและสามารถจับกุมซูโดะได้ในที่สุด
ในชั้นสอบสวน ซูโดะ ซากิ ยอมรับสารภาพถึงการฆาตกรรมสามีของเธอ แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือ พินัยกรรมของโคสุเกะ โนซากิ
โนซากิได้ระบุในพินัยกรรมว่าเขาจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับ รัฐบาลเมืองทานาเบะ เพื่อช่วยพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งหมายความว่า ซูโดะไม่ได้รับมรดกตามที่เธอหวังไว้
อ้างอิงจาก: SOha,ettoday