"หนุ่ม 32 ป่วย'อิวารี่'ปอดอักเสบจากบุหรี่ไฟฟ้า สูบวันละ 4 พอต อาการน่ากลัวกว่าที่คิด"
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เผยให้เห็นถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เมื่อนพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค และพญ.ภาวินี วงค์ประสิทธิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ได้แถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือโรคที่เรียกว่า "อิวารี่" (Evali) ซึ่งผู้ป่วยรายนี้คือชายอายุ 32 ปี ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงวันละ 4 พอต โดยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานานถึง 28 วัน
ลักษณะและอาการของผู้ป่วย
พญ.ภาวินี เปิดเผยว่า ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการไอมีเลือดปน และมีอาการเหนื่อยหอบรุนแรง แพทย์ตรวจเอกซเรย์ปอดพบฝ้าขาวที่กระจายอยู่ทั่วปอด อาการของผู้ป่วยทรุดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 24-36 ชั่วโมง ซึ่งเป็นลักษณะของปอดอักเสบเฉียบพลันที่ค่อนข้างรุนแรง แพทย์จึงทำการตรวจหาเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงการทดสอบวัณโรค แต่ผลการตรวจไม่พบเชื้อแต่อย่างใด ทำให้แพทย์ต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมและพบว่าผู้ป่วยมีประวัติสูบบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับบุหรี่แบบมวน
หลังจากที่ผู้ป่วยเริ่มหายใจดีขึ้นและสามารถถอดท่อช่วยหายใจได้ แพทย์ทำการซักประวัติย้อนหลังและพบว่า ผู้ป่วยสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากถึง 400 สูบต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้พอตจำนวน 4 พอตต่อวัน นอกจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ผู้ป่วยยังมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้สุขภาพปอดยิ่งเสี่ยงต่อการอักเสบได้ง่ายขึ้น
อิวารี่ (Evali): โรคร้ายที่มากับบุหรี่ไฟฟ้า
นพ.ชยนันท์ กล่าวถึงโรค "อิวารี่" ว่าเป็นโรคปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งได้รับการรายงานครั้งแรกในปี 2562 จากสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงเวลานั้นมีผู้ป่วยประมาณ 2,000 ราย อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ในช่วง 20-30 ปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 60 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตราว 2.3% ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่การศึกษาพบว่าการใช้น้ำมันกัญชาในบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่แม้บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีสารดังกล่าว ก็สามารถทำให้เกิดอิวารี่ได้เช่นกัน
การรักษาและการฟื้นตัวของผู้ป่วย
สำหรับกรณีผู้ป่วยรายนี้ การรักษาใช้เวลารวมทั้งหมด 28 วัน โดยช่วงแรกต้องใช้ท่อช่วยหายใจเนื่องจากปอดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวและอาการดีขึ้น แพทย์ได้แนะนำให้หยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด การฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังการรักษาเป็นไปได้ดี ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ตามปกติ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าในการฟื้นฟูสุขภาพ