เกาหลีเหนือส่ง 20 นักสเก็ต-นักสกีเข้าคุกเพราะคำพูดที่ 'ท่านคิม' ไม่ชอบ"

เหตุการณ์ที่น่าตกใจในเกาหลีเหนือ เมื่อมีรายงานจาก Radio Free Asia (RFA) ว่า กลุ่มนักกีฬาเกาหลีเหนือจำนวน 20 คน ถูกตัดสินให้ทำงานหนักในค่ายกักกันเป็นเวลา 3-5 ปี หลังจากพบว่า พวกเขาใช้คำสแลงของเกาหลีใต้ขณะเล่นเกมต่อคำศัพท์กันในค่ายฝึกซ้อม นักกีฬาเหล่านี้ทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 25 ปี และเป็นนักสเก็ตและนักสกีที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักในสาขาของตัวเอง

เรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่โดยสำนักข่าว RFA ที่รายงานจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อใน เมืองฮเยซาน ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน โดยแหล่งข่าวได้กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกไม่พอใจกับการลงโทษที่รุนแรงเกินไป และหลายคนมองว่า การตัดสินให้นักกีฬาเหล่านี้ถูกคุมขังในค่ายกักกันเป็นเวลา 3-5 ปีนั้น เป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุเพียงเพราะพวกเขาพูดเหมือนชาวเกาหลีใต้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ ตำรวจเกาหลีเหนือ ได้ทำการสุ่มตรวจค้นโทรศัพท์ของนักกีฬาหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักกีฬา 20 คนที่ถูกกล่าวหาว่าพูดคำสแลงของเกาหลีใต้ ขณะเล่นเกมต่อคำศัพท์ที่มีชื่อว่า mal kkori itgi โดยในเกมนี้ ผู้เล่นแต่ละคนต้องสร้างประโยคที่ขึ้นต้นจากคำสุดท้ายของประโยคที่ผู้เล่นคนก่อนหน้าพูด

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเล่นเกม นักกีฬาได้ใช้คำศัพท์บางคำที่มีความสัมพันธ์กับภาษาและสแลงของชาวเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้ตำรวจพบหลักฐานในโทรศัพท์ของนักกีฬา และนำไปสู่การจับกุมและลงโทษดังกล่าว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า คำสแลงเหล่านี้คือคำใดที่ถูกมองว่าเป็นการแสดงออกถึงการใช้ภาษาของชาวเกาหลีใต้

การใช้คำสแลงที่มีลักษณะคล้ายกับภาษาเกาหลีใต้ในเกาหลีเหนือไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่ประชาชนชาวเกาหลีเหนือถูกลงโทษอย่างหนักเพียงเพราะใช้คำบางคำที่ถูกมองว่าเป็น "ภาษาของทุนนิยม" เช่น การใช้คำแสดงความรักในแบบของเกาหลีใต้ที่คล้ายกับคำว่า "ที่รัก" หรือคำต่างๆ ที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศอื่นๆ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าเป็นการแสดงออกถึงความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมทุนนิยมที่ไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของประเทศ

สิ่งที่น่าสังเกตคือ นักกีฬาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในเกาหลีเหนือ จึงยิ่งทำให้การลงโทษกลุ่มนักกีฬาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองอย่างมาก เนื่องจากการลงโทษดังกล่าวมีผลกระทบถึงครอบครัวของพวกเขาด้วย

ชาวบ้านในเมืองฮเยซานได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงโทษกลุ่มนักกีฬา โดยกล่าวว่า การลงโทษนักกีฬาเหล่านี้ที่มีอนาคตไกลและยังเป็นเยาวชน ไม่ควรมีโทษที่รุนแรงเช่นนี้เพียงเพราะการพูดในลักษณะของชาวเกาหลีใต้ ชาวบ้านหลายคนมองว่า เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรได้รับการลงโทษในระดับนี้ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาอาศัยอยู่ในยุคที่ภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีใต้จำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้ผู้คนในเกาหลีเหนือส่วนใหญ่สามารถได้ยินและคุ้นเคยกับภาษาและวัฒนธรรมเกาหลีใต้

นักกีฬาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ถูกลงโทษด้วยการจำคุกในค่ายกักกัน แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็ยังถูกลงโทษด้วยการปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่การงานและถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ชนบทตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งการลงโทษที่มีผลกระทบต่อทั้งครอบครัวเช่นนี้ ยิ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของการลงโทษ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วัฒนธรรมเกาหลีใต้ ได้แพร่กระจายเข้าสู่เกาหลีเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การดาวน์โหลด วิดีโอและเพลงเกาหลีใต้ ที่ผิดกฎหมายจากแหล่งต่างประเทศ เช่น ผ่าน ธัมบ์ไดรฟ์ หรือ การ์ด micro SD ทำให้คนหนุ่มสาวในเกาหลีเหนือคุ้นเคยกับเสียงภาษาเกาหลีที่มาจากฝั่งใต้ และมีความรู้เกี่ยวกับ ภาพยนตร์ หรือ ซีรีส์เกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม

แม้ว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายและบทลงโทษที่เข้มงวดในเกาหลีเหนือ แต่ก็ยังคงมีการแพร่กระจายของวัฒนธรรมเกาหลีใต้ในหมู่คนหนุ่มสาวในเกาหลีเหนือ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดความสับสนในภาษาหรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ของรัฐบาล