เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนมีนโยบายโทรเตือนผู้หญิง “วันที่เหมาะสมต่อการมี sex เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สูง” หวังเเก้ปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง
ในยุคนี้หลาย ๆ ประเทศรวมทั้งหมดประเทศจีนกำลังเผชิญกับปัญหามีอัตราการเกิดลดลง จนรัฐบาลของประเทศต้องมีนโยบาลต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์เปลี่ยนใจอยากมีลูก เพื่อรับมือกับอัตราการเกิดที่ลดลง เจ้าหน้าที่ระดับเขตในประเทศจีนจะโทรถามผู้หญิงมาเพื่อตรวจสอบว่าพวกเธอตั้งครรภ์หรือไม่
สำหรับผู้ที่ตอบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ เจ้าหน้าที่จะถามวันที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุด และเสนอที่จะโทรเตือนใน “เวลาที่เหมาะสม” ที่หากมีอะไรกับสามีจะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงนี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของประเทศในการลดอัตราการเกิดที่ลดลงของประเทศ
เพื่อกำหนดนโยบายใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมการสืบพันธุ์ รัฐบาลจีนยังหวังที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ผู้หญิงจำนวนมากปฏิเสธที่จะมีลูกโดยการพูดคุยกับผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งกำหนดว่ามีอายุระหว่าง 15 ถึง 49 ปีโดยตรง
Janice Huang หญิงวัย 35 ปี ซึ่งรับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง บอกว่ากับ SCMP ว่าสิ่งแรกที่เธอทำคือหัวเราะ เธอเดาว่าเจ้าหน้าที่สำรวจน่าจะมาจากรุ่นก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและคุณภาพชีวิตมากกว่า
เธอบอกเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีแผนมีลูกอีกคน เนื่องจากขาดเงิน เวลา และพลังงาน ก่อนจะวางสายไป รายงานระบุว่าครอบครัวต่างๆ ทั่วประเทศมีความเห็นตรงกัน โดยหลายครอบครัวอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการจ้างงานเมื่อพิจารณาเรื่องการมีลูก
เจ้าหน้าที่ที่ให้สัมภาษณ์กับ SCMP กล่าวว่าผู้ตอบแบบสอบถามมี "ความไม่พอใจอย่างมาก" ต่อนโยบายลูกคนเดียวที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1980 เพื่อควบคุมการเติบโตของประชากร แต่ก็มาปรับเปลี่ยนเป็นนโยบายลูกสองคนในปี 2016 โดยครอบครัวที่ละเมิดโควตาจะถูกปรับ
ในปี 2020 คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งในเมืองกว่างโจวต้องจ่ายค่าปรับเกือบ 320,000 หยวน (1.5 ล้านบาท) จากการมีลูก 3 คน เเละในปี 2021 นโยบายคุมกำเนิดถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ เมื่อขีดจำกัดการมีลูกได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 คนต่อครอบครัว และไม่มีการปรับเงินสำหรับการเกินโควตา
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากกล่าวว่ารัฐบาลควรคืนเงินค่าปรับที่เรียกเก็บภายใต้นโยบายคุมกำเนิด เพื่อแสดงถึงความจริงใจของพวกเขา ในปัจจุบันยังไม่มีกรณีที่รัฐบาลคืนเงินค่าปรับที่เรียกเก็บภายใต้นโยบายดังกล่าว