ตำนาน "เซ็กส์ทอย"..ของเล่นผู้ใหญ่ ที่ใครๆ ก็ชอบ

              ตำนาน "เซ็กส์ทอย"..ของเล่นผู้ใหญ่ ที่ใครๆ ก็ชอบ  ทั้งนี้พอเอ่ยคำว่า "เซ็กส์ทอย" ออกไป หลายคนที่ได้ยินก็มีความรู้สึกแตกต่างกันออกไป เพราะสังคมไทยยังไม่ค่อยยอมรับและก็รู้สึกกระดากปากเวลาจะพูดถึง เพราะช่วงนี้ก็ได้ยินคำว่า "เซ็กส์ทอย" บ่อยๆ ในกระแสของโลกโซเชียล

               ทั้งนี้ประเทศไทยก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ออกมาแบนเซ็กส์ทอยอย่างจริงจัง แต่ยังมีอีกหลายๆ ประเทศ อาทิเช่น ซาอุดิอาระเบีย, มัลดีฟส์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เวียดนาม, อินเดีย และมาเลเซีย เป็นต้น ในขณะที่อีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก ต่างก็ยอมรับเซ็กส์ทอย โดยสามารถใช้และพกพาได้อย่างเสรี เรียกได้ว่ามีร้านค้าเซ็กส์ทอยโดยเฉพาะ ไม่ต่างจากร้านหนังสือ หรือร้านกาแฟเลยทีเดียว

               เชื่อหรือไม่ว่า เซ็กส์ทอยนั้นอยู่คู่กับพวกเรามาอย่างยาวนาน เพราะมีหลักฐานอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุด โดยย้อนกลับไปได้ถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือประมาณ 28,000 ปีก่อน ซึ่งปรากฎในรูปของศิวลึงค์ที่มีขนาด 19.2 เซนติเมตร สร้างขึ้นมาจากทราย ภายในถ้ำแห่งหนึ่งที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเซ็กส์ทอยชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาในพิธีกรรม, เป็นอาวุธ หรือเพื่อความสุขส่วนตัวของใครบางคนกันแน่

               ต่อมาในยุคสมัยของอารยธรรมกรีกและโรมัน เชื่อกันว่าเจ้าดิลโด้ท่อนแรกได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ทำมาจากดินเหนียวโดยปั้นเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ซึ่งผู้หญิงชาวกรีกต่างโปรดปรานกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มาก ทั้งนี้พวกเขายังใช้ขนมปังที่มีรูปร่างคล้ายดิลโด้ และน้ำมันมะกอกเป็นสารหล่อลื่น ตามความเชื่อของชาวกรีก หากผู้หญิงว่างเว้นจากการมีเซ็กส์ไปนานๆ ก็จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ซึ่งในยุคสมัยนั้นทางผู้ชายต้องออกไปรบในสงคราม บรรดาเซ็กส์ทอยเหล่านี้นี่เองที่ทำให้พวกเธอยังคงมีชีวิตรื่นรมย์อยู่ได้

              ข้ามมาทางฝั่งเอเซียกันบ้าง ประวัติศาสตร์ของเซ็กส์ทอยย้อนไปไกลถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น ชาวเอเชียของเรานั้นต่างคุ้นเคยกับของเล่นสำหรับผู้ใหญ่มาช้านาน ยิ่งกว่าชาวตะวันตกเสียอีก โดยบรรดาขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นมักใช้หยกแกะสลักเป็นรูปแท่ง ยึดติดกับสายรัดที่ทำด้วยบรอนซ์ แล้วนิยมใช้หยกนี้สอดใส่เข้าไปในทวารหนัก เพื่อกักเก็บพลังงานฉีไว้ในตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นที่เสียบก้นในยุคโบราณที่สุด ในเชิงประวัติศาสตร์ ไอ้เจ้าวัตถุชิ้นนี้มักนิยมใช้กันทั้งชายและหญิงเสียด้วยซ้ำไป!

               ทั้งนี้ก็มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า ชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกามักนิยมใช้ขนม้ามัดเป็นกระจุก เพื่อกระตุ้นจุดคลิตอริสของผู้หญิงในระหว่างมีเซ็กส์ ขณะที่ผู้ชายก็นิยมเจาะร่างกาย และอวัยวะเพศด้วยงาช้างหรือไม้ไผ่ เพื่อเพิ่มผิวสัมผัสในการมีเซ็กส์อีกด้วย

              หลังจากนั้นไปอีกพันปี ก็มีชาวพม่ารวมไปถึงชาวจีนได้คิดค้นเจ้าลูกกลมๆ แกะสลัก ลักษณะคล้ายอัณฑะผู้ชาย ใช้สอดใส่เข้าไปทั้งในร่างกายของทั้งชาย และหญิงเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินหรรษา และเจ้าบอลนี้ก็มีชื่อเรียกว่า Ben Wa / Orgasm Ball หรือแปลเป็นไทยก็คือ ลูกบอลจุดสุดยอด นั่นเอง

               และใน ค.ศ. 1700 เป็นต้นมา บรรดาของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ ก็เริ่มที่จะขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ไปจนถึง Sex Doll หรือตุ๊กตาเซ็กส์ ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ โดยประวัติศาสตร์ของมันนั้นก็ยืดยาวน่าสนใจ และสนุกมากๆ ไม่แพ้กัน แต่ก็ขออนุญาตเอาไว้เล่าในโอกาสหน้า

              หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1904 ก็มีนักเคมีในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้เริ่มคิดค้นตุ๊กตายางสำหรับท่านชาย และหลังจากนั้นมาเป็นเวลา 4 ปี ตุ๊กตายางตัวแรกของโลกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมๆ กับจิ๊มิสังเคราะห์ที่ติดตัวมากับตุ๊กตายาง นั่นก็คือเส้นทางการเกิดขึ้นของวัตถุมหัศจรรย์ของทั้งท่านหญิงและท่านชาย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา