สามีสงสัยภรรยามีชู้ ใช้มีดแทงเธอต่อหน้าลูก ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายกลับฟื้นขึ้นมาได้ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สามีสงสัยภรรยามีชู้ ใช้มีดแทงเธอต่อหน้าลูก ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายกลับฟื้นขึ้นมาได้ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ร้อยตำรวจเอก กมลวัฒน์ อากาศ รองสารวัตรสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 29 ตุลาคม โดยเบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย จึงได้เร่งประสานกำลังไปยังจุดเกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ ชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย โดยทั้งสองกอดกันอยู่ สภาพศพมีมีดทำครัวยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่ 2 เล่ม และมีรอยเลือดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งบ่งบอกถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายรัตนพล และ น.ส.ณัฐญา
จากการสอบถามลูกสาวของผู้เสียชีวิต เธอเล่าว่าได้ยินเสียงแม่กรีดร้อง จึงรีบวิ่งเข้าไปดู พบว่าแม่อยู่ในกองเลือดแต่ยังไม่เสียชีวิต และเห็นพ่อเดินไปมา พร้อมกับใช้มีดแทงตัวเอง ก่อนจะลงไปกอดแม่และแทงตัวเองซ้ำหลายครั้ง ทำให้เธอตกใจและรีบวิ่งออกมาโทรศัพท์แจ้งป้าของเธอ
น.ส.ศรัญญา พี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า น้องสาวโทรหาตนประมาณ 22.00 น. ขอให้มารับ โดยปกติแล้วทั้งคู่มักมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง ตนจึงแนะนำให้คุยกันอย่างใจเย็น แต่หลังจากนั้นน้องสาวบอกว่าจะโทรหาตนอีกครั้ง ปกติแล้วไม่คิดว่าครั้งนี้จะรุนแรงถึงขนาดนี้
หลังจากวางสายไปไม่นาน หลานสาวโทรเข้ามาร้องไห้ ตนจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น หลานบอกว่าพ่อทำร้ายแม่ ตนจึงรีบออกจากบ้านและโทรแจ้ง 1669 พร้อมสอบถามหลานว่าแม่เป็นอย่างไร หลานบอกว่าไม่รู้เพราะออกมาจากที่เกิดเหตุแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์นี้คาดว่าฝ่ายชายอาจมีความระแวงและกลัวว่าภรรยาจะมีคนอื่น เนื่องจากพบว่าทั้งคู่มีการทะเลาะกันในแช็ตไลน์เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา และในวันนี้ก็มีปากเสียงกันถึง 3 ครั้งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น
ในระหว่างการพิสูจน์หลักฐานและชันสูตรพลิกศพ พบว่าฝ่ายชายยังมีชีพจรอยู่ จึงได้เร่งนำส่งโรงพยาบาล โดยในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเพียงฝ่ายหญิงเท่านั้น
หลังจากเก็บหลักฐานเสร็จสิ้น จะมีการส่งศพของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนฝ่ายชายที่เป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการควบคุมตัวและสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป