นักวิทยาศาสตร์เชื่อมั่นสามารถนำธิลาซีน สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกลับมาได้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การพูดคุยเกี่ยวกับการนำสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์กลับคืนมาได้กลายเป็นหัวข้อที่น่าสนใจในวงการวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการฟื้นฟูธิลาซีน สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 1936 นักวิทยาศาสตร์จาก Colossal Biosciences ได้ประกาศความก้าวหน้าที่สำคัญในการศึกษาและฟื้นฟูสายพันธุ์นี้ โดยใช้เทคโนโลยีทางพันธุกรรมที่ทันสมัย
การสร้างจีโนมที่มีความแม่นยำถึง 99.9% จากตัวอย่างหัวของธิลาซีนที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ทำให้ทีมงานสามารถเข้าใจลักษณะทางชีววิทยาและพฤติกรรมของสัตว์ชนิดนี้ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างนี้มีอายุ 110 ปี และถูกเก็บในเอทานอล ซึ่งช่วยให้สามารถแยก DNA และ RNA ที่สำคัญออกมาได้ การศึกษา RNA จากเนื้อเยื่อต่าง ๆ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่าธิลาซีนมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมอย่างไร รวมถึงความสามารถในการรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ
โครงการนี้ยังมีการใช้ดันนาร์ต ซึ่งเป็นญาติที่ใกล้ชิดของธิลาซีน เป็นสายพันธุ์ตัวแทนในการแก้ไขจีโนมเพื่อสร้างสัตว์ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมคล้ายคลึงกับธิลาซีน การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในการสร้างสัตว์ใหม่ขึ้นมา แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการวิวัฒนาการและการปรับตัวของสัตว์ในธรรมชาติ
แม้ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะสร้างความหวังใหม่ในการฟื้นฟูธิลาซีน แต่ก็ยังมีเสียงเรียกร้องให้ระมัดระวังจากนักวิทยาศาสตร์บางคน เช่น คริสโตเฟอร์ เฮลเกน ที่ชี้ให้เห็นว่าข้อมูลทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการสร้างสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ขึ้นมาใหม่ การเข้าใจถึงสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมของสัตว์ในอดีตยังเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน