"อ.เจษฎ์" ไขความลับ! แท่งประหลาดโผล่จากเมฆสีรุ้งเหนือท้องฟ้า..ว่ามันคืออะไร ?
"อ.เจษฎ์" ไขความลับ! แท่งประหลาดโผล่จากเมฆสีรุ้งเหนือท้องฟ้า..ว่ามันคืออะไร ? หลังจากโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพนี้จนกลายเป็นไวรัล มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ภาพเหตุการณ์นี้ โดยเกิดขึ้นที่เหนือท้องฟ้าใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ก้อนเมฆสีรุ้ง ที่เกิดจากแสงอาทิตย์สีขาวไปตกกระทบกับเม็ดน้ำขนาดต่างๆ กัน ที่อยู่เหนือยอดเมฆ และเมื่อมีแสงมาตกกระทบบนหยดน้ำ จึงทำให้เกิดการหักเหเปลี่ยนทิศทางไปจากแนวเดิม แต่ทว่าแสงสีต่างๆ หักเหได้ไม่เท่ากัน แต่ที่น่าแปลกประหลาดใจที่สุดก็คือ ที่บริเวณแถบเมฆสีรุ้งก็จะปรากฏเป็นรูปร่างคล้ายเสา หรือเงาอะไรบางอย่างด้วย
ล่าสุด ทาง รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาอธิบายถึงเรื่องนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ถ้าภาพถ่ายนี้เป็นภาพจริง ไม่มีการตัดต่ออะไร ก็พอจะวิเคราะห์เรื่องนี้ได้ว่า ประการแรก วิวเมฆสีเหลือบๆ นี้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกกันว่า “หมวกเมฆสีรุ้ง” สามารถเห็นได้บ่อยๆ โดยเกิดจากแสงอาทิตย์ที่มากระทบกับผลึกน้ำแข็งในก้อนเมฆ และเกิดการแทรกสอดของแสงสีต่างๆ จนเห็นเหมือนเป็นสีรุ้ง
ซึ่งในโพสต์ดังกล่าว ก็มีหลายคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในทำนองเดียวกัน และก็เห็นชัดเจนว่าเป็นหมวกเมฆสีรุ้ง แต่สำหรับบริเวณที่ดูเป็นเหมือน “แท่งสีดำ” ประหลาดนั้น ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน และก็น่าสงสัยอยู่ว่า มันคืออะไรกันแน่? เพราะทางผู้โพสต์บอกมาว่า มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่บังเอิญถ่ายติดมา? คือ ถ้ามี “เงาสีดำ” บนท้องฟ้า เหมือนเมฆถูกแหวกออก และมองได้ด้วยตาเปล่าเนี่ย ก็อาจจะเป็นปรากฏการณ์ “ดิสเทรล distrail” และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับ “คอนเทรล contrail” หรือเมฆท้ายเครื่องบิน ครับ สำหรับดิสเทรล ก็เป็นปรากฏการณ์ที่สามารถพบเห็นได้ แต่หายาก ไม่พบบ่อยเหมือนกับคอนเทรล (ที่เราเห็นเป็นแนวเมฆเส้นยาวบนท้องฟ้า เกิดจากผลของเครื่องยนต์เจ็ตเครื่องบิน และหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า เป็นแนวจรวดยิงผ่าน)
สำหรับลักษณะของดิสเทรลนั้น จะเป็นช่องตัดผ่านชั้นของเมฆ เหมือนเมฆถูกแหวกออก ดิสเทรลจะเกิดขึ้นได้เมื่อเครื่องบินบินผ่านชั้นบางๆ ของเมฆ และความร้อนจากเครื่องยนต์ ได้ทำให้ก้อนผลึกน้ำแข็งในเมฆระเหยกลายเป็นไอน้ำ เลยเห็นเป็นช่องตัดผ่านเมฆ หรืออีกทางหนึ่ง จะเกิดขึ้นในระหว่างที่เครื่องบินบินผ่านชั้นของเมฆที่มีหยดน้ำ เย็นจัดถึงจุดเยือกแข็ง (แต่ยังไม่กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง) แล้วความปั่นป่วนของกระแสลมที่เกิดขึ้นขณะเครื่องบินบินผ่าน มันไปกระตุ้นให้กลายเป็นน้ำแข็ง หล่นลงมาสู่เมฆชั้นล่าง เลยเห็นเป็นช่อง แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า ถ้าเป็น distrail จริงๆ ก็น่าจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้คงยังเป็นปริศนาต่อไปว่าเกิดจากอะไรกันแน่ (หวังว่าจะไม่ใช่ภาพตัดต่อ หรือเป็นความผิดปรกติของกล้องถ่ายรูปนะครับ)”