คนขับกระบะเล่าถึงเหตุการณ์แหกโค้งที่ภูทับเบิก ตกเหวลึก 40 เมตร ทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 5 ราย
คนขับกระบะเล่าถึงเหตุการณ์แหกโค้งที่ภูทับเบิก ตกเหวลึก 40 เมตร ทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 5 ราย
กระบะที่บรรทุกครอบครัว 6 คนกำลังเดินทางไปเยี่ยมญาติ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุแหกโค้งที่โค้ง S2 ภูทับเบิก ตกลงไปในเหวลึก 30-40 เมตร ส่งผลให้สมาชิกในครอบครัวได้รับบาดเจ็บหลายคน
เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. สมาคมอาสาสมัครร่วมกตัญญูเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก ได้รับการแจ้งเตือนจากศูนย์วิทยุกู้ชีพโรงพยาบาลหล่มเก่าเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถกระบะแหกโค้งตกเหวลึก 30-40 เมตร ที่เกิดขึ้นบริเวณโค้ง S2 ภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่าจ.เพชรบูรณ์ จึงได้ส่งทีมออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะทะเบียน กอ 6721 พิษณุโลก มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย ทีมอาสาสมัครได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหล่มเก่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนของ สภ.หล่มเก่า
อัปเดตล่าสุดจากเดลินิวส์ นายคาวี (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นคนขับรถที่ประสบอุบัติเหตุ ได้ถูกนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และผลปรากฏว่าเป็นศูนย์ (0) ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเกิดเหตุแต่อย่างใด ขณะนี้เขาได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า หลังจากที่มีการนำกำลังอาสาสมัครจากมูลนิธิร่วมกตัญญูไปตรวจสอบจุดที่รถตกเขา ซึ่งเกิดขึ้นที่โค้ง S2 บนถนนขึ้นภูทับเบิก ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
นายคาวีได้เล่าให้ฟังว่าเขามากับครอบครัวรวม 6 คน ได้แก่ ภรรยา แม่ยาย ลูก 2 คน และหลานของภรรยา โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำธุระที่ภูทับเบิก ขากลับเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเบรกไม่อยู่ ทำให้แหกโค้งและพุ่งชนแบริเออร์ข้างทาง ก่อนที่จะตกลงไปในเหวลึก ส่งผลให้ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ แต่ตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะโตโยต้า รีโว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กฮ 6721 พิษณุโลก ตกอยู่ในเหวลึกประมาณ 40 เมตร
อาสาสมัครจากมูลนิธิร่วมกตัญญูต้องใช้วิธีโรยตัวลงไปเพื่อช่วยเหลือ พบว่ารถมีสภาพพังเสียหายอย่างหนัก และมีผู้ติดอยู่ภายในรถจำนวน 6 คน เมื่อช่วยเหลือออกมาได้ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 5 คน จึงรีบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน การช่วยเหลือในครั้งนี้มีความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่เป็นทางลาดชัน จึงต้องใช้เชือกในการดึงผู้บาดเจ็บขึ้นมาจากด้านล่าง.
ขอบคุนภาพ Facebook @LomsakRuamkatanyoFoundation