วงการบันเทิงหน้าสว่าง แต่ฉากหลังมืดสนิท..เต็มไปด้วยธุรกิจสีเทาที่คอยสูบเลือดประชาชน
วงการบันเทิงหน้าสว่าง แต่ฉากหลังมืดสนิท..เต็มไปด้วยธุรกิจสีเทาที่คอยสูบเลือดประชาชน ทั้งนี้กรณี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ยังคงเป็นประเด็นร้อนๆ ที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เพราะมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย มิหนำซ้ำยังได้สร้างความเสียหายหลายหมื่นล้าน หรืออาจจะถึงแสนล้านด้วยซ้ำไป อันนี้ก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน โดยล่าสุดผู้บริหารทั้ง 18 รายก็ได้เข้าคุกไปเรียบร้อยแล้ว ในคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย
โดยคดีดังกล่าว ได้มีเหล่าคนในวงการบันเทิงเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เคยมีกรณี ‘คดี Forex-3D’ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งก็มีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาท มีทั้งดารา และนักแสดงเป็นจำนวนมากได้เข้าไปเกี่ยวข้อง และถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย เรียกว่าได้สร้างมูลค่าความเสียหายมากกว่า 2.5 พันล้านบาทเลยทีเดียว และหลังจากนั้นไม่นานก็มีกรณีขายทองออนไลน์ของ "แม่ตั๊ก กรกนก" ซึ่งก็มีเหล่าคนในวงการบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนเดิม แต่กรณีหลังน่าจะถูกหลอกให้มาเป็นพรีเซนเตอร์มากกว่า เพื่อเรียกศรัทธาประชาชน และหลอกเหล่าดาราให้มาขายของให้ สุดท้ายก็เป็นทองปลอมจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว และทางตำรวจก็นำแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์เข้าคุกตามระเบียบอีกเช่นเดิม
ล่าสุด กับเคสใหญ่อย่าง "ดิไอคอน" ซึ่งโยงใยไปถึงเหล่าเทวดา ข้าราชการ และนักการเมืองทั้งหลาย แถมยังมีดาราชื่อดังระดับแถวหน้า ตกเป็นผู้ต้องหาอีกจำนวน 3 ราย คือ กันต์ กันตถาวร, มิน-พีชญา วัฒนามนตรี และ แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี นี่ยังไม่นับรวมบรรดาพรีเซนเตอร์ทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นดาราดังแทบทั้งนั้น เรียกว่าเกือบครึ่งวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้ เพราะบอสใหญ่ต้องการให้ประชาชนมาตกเป็นเหยื่อมากๆ จึงต้องหาตัวล่อชั้นดี ซึ่งงานนี้ก็ได้ผลมีคนเสียหายเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับขั้นฆ่าตัวตายเลยก็มีเพราะสิ้นเนื้อประดาตัว
ด้วยอิทธิพลของสื่อและเหล่าดาราผู้มีชื่อเสียง ทำให้มีประชาชนหลงตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จากที่ผ่านมาก็พบว่าบรรดาดาราดังๆ ในวงการบันเทิงต่างเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาเป็นจำนวนมาก ทั้งเว็บพนันออนไลน์ ขายตรงหรือแม้กระทั่งธุรกิจแชร์ลูกโซ่ที่เป็นข่าวก็ตาม และตราบใดก็ตามที่มนุษย์ยังคงมีกิเลส มีความโลภอยู่ ก็ยังต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ
สำหรับดาราก็เป็นคนที่อยากมี อยากได้เหมือนกัน ก็ได้โดดลงมาเล่นด้วยตัวเอง โดยได้เข้ามาร่วมในธุรกิจนี้มีรายได้จากเปอร์เซ็นต์’ เป็นคำที่มีมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความดาราเหล่านั้นจะไปคดโกงใคร แต่เขาแค่ให้มาเป็นพรีเซนเตอร์เท่านั้น ทั้งนี้จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ต้องเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบทบาทของดาราคนนั้นๆ ว่าทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะพรีเซนเตอร์ หรือไปมีส่วนร่วมในการใช้คำพูดที่หลอกลวงประชาชนให้เข้าใจผิดในสาระของธุรกิจนั้นด้วยใช่หรือไม่
อย่างไรก็ดี สำหรับทางออกของปัญหาธุรกิจสีเทานี้ เราควรต้องให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทางภาครัฐต้องไม่ปล่อยปละละเลย และต้องรวมศูนย์ทุกหน่วยงานมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แยกกันทำ แยกกันอยู่ แยกกันตีความ ในขณะเดียวกันเวลานี้เราก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะแสดงท่าที หรือเจตจำนงถึงการเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของประเทศเลย