ยื่นเรื่องสอบ'มูลนิธิช้างดัง'ห้าเดือนยังเงียบกริบ!

 มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีคุณเล็ก แสงเดือน เจ้าของปางช้างในเชียงใหม่ที่ถูกน้ำท่วมจนกลายเป็นประเด็นดราม่าเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ได้เคยถูกยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีการดำเนินงานของมูลนิธิที่คล้ายกับการดำเนินการของมูลนิธินายอูรส์ บีท เฟอร์ หรือ “เดวิด” ชาวสวิตเซอร์แลนด์

  โดยผู้ร้องเรียนร้องเรียนว่ามูลนิธิของคุณเล็ก แสงเดือน มีพฤติกรรมนำการอนุรักษ์ช้างไทย มาเปิดรับบริจาคเงินจากคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมีรายรับของเงินบริจาคจำนวนมาก และมากกว่ามูลนิธิของนายอูรส์ บีท เฟอร์ หรือ “เดวิด” ชาวสวิตเซอร์แลนด์ หลายเท่า 

เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการจัดตั้งมูลนิธิโดยนำช้างไทยมาดูแลและถูกทารุณกรรม เป็นข้ออ้าง ในการเปิดรับเงินบริจาค จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบการดำเนินกิจการของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนตรวจสอบการรับเงินบริจาคและการใช้เงินบริจาคว่าเพื่ออนุรักษ์หรือช่วยเหลือช้างจริงหรือไม่ เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ของผู้บริจาคหรือไม่ 

มีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายและส่งงบการเงินตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการเปิดมูลนิธิเพื่อใช้หาผลประโยชน์ให้ตนเอง 

มีการนำช้างที่มีชื่อบุคคลอื่นมาไว้ในมูลนิธิและ อ้างว่าเป็นการช่วยเหลือช้าง ซึ่งทายาทโดยธรรมของเจ้าของช้างไม่ยินยอมและได้แจ้งขอให้คืนช้างแล้ว แต่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เพิกเฉยไม่ยอมคืน แต่อย่างใด

  ซึ่งผลของการร้องเรียนปรากฏว่า กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า มูลนิธิอยู่ที่เชียงใหม่ ดังนั้นให้เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนมูลนิธิเชียงใหม่เป็นคนชี้แจง ปัจจุบันผ่านไป 5 เดือนแล้วทางผู้ร้องเรียนยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด

  สำหรับมูลนิธิของนายอูรส์ บีท เฟอร์ หรือ “เดวิด” ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต ที่ถูกกล่าวถึงนั้นเคยมีประเด็นโดยมีข้อมูลจากอดีตลูกจ้างและคนใกล้ตัวดังนี้

  มีอดีตลูกจ้างถูกติดต่อให้พาช้างมาทำงานด้วยซึ่งเป็นช้างเชือกแรกของปางช้างแห่งนี้ แต่ถูกหาเรื่องไล่ออกเพราะว่าได้ช้างเชือกใหม่และไม่ให้เงินชดเชยใดๆ จนลูกจ้างรายนี้ต้องนำช้างกลับจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังมีลูกจ้างอีกรายให้ข้อมูลว่ามูลนิธินี้ไม่ได้อนุรักษ์ช้างแต่อย่างใด และมีช้างที่ซื้อมาเพียงเชือกเดียว นอกนั้นเช่ามาจากสุรินทร์และบุรีรัมย์เพื่อทำธุรกิจ ไม่ได้เพื่อการอนุรักษ์อย่างที่กล่าวอ้าง และลูกจ้างหญิงรายหนึ่งยังบอกว่าเมื่อช้างของเธอแก่ทำงานไม่ไหวก็ถูกไล่ออกและใช้ลูกชายที่เป็นตำรวจมาข่มขู่ ซึ่งผิดวิสัยของคนรักช้างตามที่นายเดวิดกล่าวอ้างว่าตนเป็นคนรักช้าง