สัตวแพทย์แฉ'ปางช้างโลกสวย'-ขบวนการNGOทำลายเศรษฐกิจไทย!
สพ.ดร. สิทธิเดช มหาสาวังกุล ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) หรือ'หมอต๋อง'ยืนยันว่าช้างเลี้ยงทุกตัวนั้นต้องผ่านการฝึกช้างมาทั้งสิ้นแม้แต่ช้างที่ถูกอ้างว่าไม่มีโซ่ ไม่มีตะขอก็ล้วนแต่ผ่านการฝึกมาแล้ว!
'หมอต๋อง'ซึ่งเป็นหมอช้างอาวุโสเล่าถึงการทำการตลาดของปางช้างโลกสวยแห่งหนึ่งที่ใส่ร้ายโจมตีปางช้างอื่นๆ ที่เลี้ยงช้างแบบวิถีไทย โดยกล่าวถึงคลิปที่มีการเผยแพร่ไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2544 ที่มีสื่อทีวีระดับโลก นำภาพการฝึกช้างออกไปเผยแพร่ โจมตีว่าประเทศไทยทารุณกรรมสัตว์ ทำให้ช้างเลี้ยงทุกตัวถูกมองว่าช้างเลี้ยงทุกเชือก ไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หรือการลากไม้ ต้องถูกทารุณกรรมอย่างสาหัสเพื่อสื่อให้เห็นว่า การฝึกลูกช้างของไทยนั้นโหดร้ายทารุณ มีการเสนอภาพที่ทำให้พิธีผ่าจ้าน (พิธีกรรมเสริมดวงให้ช้างตามคติความเชื่อของชาวล้านนา) ออกมาดูน่ากลัว ซึ่งต่อมาตำรวจสอบสวนพบว่าเป็นการจัดฉาก แต่ก็ยังมีการใช้คลิปนั้นวนเวียนเรื่อยมาเพื่อโจมตีใส่ร้ายวิถีการเลี้ยงช้างของไทยจนถึงปัจจุบัน
(ตามเนื้อหาเพิ่มเติมส่วนนี้ได้ในลิงค์ด้านล่าง)
https://news.postjung.com/1579040
ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ต่างประเทศไม่สนับสนุนการมาเที่ยวในปางช้างวิถีไทยที่มีควาญและการใช้อุปกรณ์สื่อสารกับช้างเช่น โซ่และขอ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการท่องเที่ยวปางช้างแบบไม่มีควาญ ไม่มีโซ่และขอ (No hook - No chain) หรือที่วงการช้างเรียกว่า "ปางช้างโลกสวย" โดยนำเอาช้างตัวเมียที่ผ่านการฝึกมาแล้วเข้ามาในธุรกิจการท่องเที่ยว และในไทยก็มีปางช้างโลกสวยเกิดขึ้นกว่า 30 ปาง ซึ่งหากมีการย้อนประวัติดูแล้วจะพบว่าช้างทุกเชือกล้วนแต่ผ่านมาฝึกมาแล้วทั้งนั้น ส่วนช้างที่ไม่ได้ผ่านการฝึกคือช้างป่า
หมอต๋องเล่าว่าเคยมีกลุ่มปางช้างโลกสวยมาคุยเปิดอก บอกว่าช้างในปางช้างโลกสวยของตนนั้ ผ่านการฝึกที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยมาก่อนเพื่อให้มันนิ่งและปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งนี่ถือเป็นการจัดฉากอย่างหนึ่ง โดยคุณหมอเองก็เข้าใจคนทำธุรกิจเลี้ยงช้าง ที่จะเลี้ยงแบบปล่อยในเวลากลางวัน แต่จะมัดช้างไว้ในเวลากลางคืน
ที่น่าเศร้าคือในปางช้างโลกสวยนั้นมีควาญช้างและนักท่องเที่ยวหลายคนที่เสียชีวิตแต่อาจถูกปิดข่าวไว้ หมอต๋องรู้จักควาญช้างคนหนึ่งที่เก่งมาก เลี้ยงช้างดุได้ ปางช้างโลกสวยจึงมอบหมายให้เขาไปดูแลช้างดุ แต่เนื่องจากกฎที่ห้ามพกมีด พกตะขอ ให้นักท่องเที่ยวเห็น ทำให้ควาญช้างคนนี้ถูกช้างดุตกมันทำร้ายจนเสียชีวิต “โดยในวันที่เข้าไปหาช้าง ไม่ได้พกมีด พกขอไป ช้างมันรู้เลย มันซัดเสียชีวิต”
ช้างที่ทำร้ายควาญ หรือนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจะถูกขายไปที่อื่น เมื่อช้างในปางช้างโลกสวยเริ่มดื้อก็จะย้ายช้างกลุ่มนี้ออกไปฝึกใหม่ซึ่งเรียกว่า “การซ่อม(ช้าง)” ซึ่งเหมือนการเอาไปซ่อมแล้วเปลี่ยนเอาตัวใหม่มา เพื่อให้ในปางช้างโลกสวยนั้นมีช้างที่ไม่มีโซ่คล้องอยู่ตลอดเวลา
ช้างที่ไม่มีโซ่ ไม่มีตะขอตลอดเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ เหมือนเป็นช้างโชว์รูมที่เมื่อเริ่มดื้อเริ่มพยศก็จถูกนำไปเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปยิ่งถ้าดื้อมาก ๆ ก็ถูกเอาไปฝึกใหม่อย่างหนัก ซึ่งเรื่องนี้คนในวงการช้างต่างรู้ดี
“คนที่รักสัตว์ เขาจะใช้งานอย่างทะนุถนอม ใช้ด้วยความเอ็นดู เขาไม่ใช่แบบตะบี้ตะบันใช้ จนมันเกิดอาการทรมาน จนบาดเจ็บล้มตาย ไม่ใช่แบบนั้น
คนที่เลี้ยงช้างทุกคน ถึงเขาเอามา (ใช้ในการ) ท่องเที่ยว มานั่งแหย่ง (ที่นั่งบนหลังช้าง) เขาก็เลี้ยงด้วยความเอ็นดู ด้วยความรัก เสร็จจากงาน เขาก็ประคบประหงม ให้อาหารที่ดีกิน ดูแลอย่างดี เจ็บป่วยก็หายา หาหมอมารักษา
ก็จะอาจจะมีคนไทยกลุ่มหนึ่งแหละที่เอาภาพตรงนี้ ไป Present (นำเสนอ) NGO ต่างชาติตลอด เรื่องสวัสดิภาพสัตว์ ทุกวันนี้ถ้าเราดูในเฟซบุ๊ก เราจะเห็นฟีดอันเนี้ย NGO ต่างชาติขึ้นตลอดเวลาเลย
ถ้าการนั่งช้างเป็นการทรมาน การฝึกเพื่อให้เข้าสู่ปางโลกสวย มันก็คือการทรมานอีกแบบหนึ่ง เพราะว่ามันต้องฝึกจน (ช้าง) นิ่ง”
นอกจากนี้ยังมีการทำการตลาดบนความน่าเวทนาของช้าง ด้วยการหาซื้อช้างพิการ ช้างตาบอด ช้างผอมเพื่อนำมาสร้างเรื่องราวเรียกนักท่องเที่ยว จนทำให้ราคาช้างเหล่านี้พุ่งสูง
หมอต๋องกล่าวถึงทางออกของความเห็นต่างเรื่องการเลี้ยงช้างว่า ควรยึดกฎหมาย โดยล่าสุดกฎหมายมาตรฐานปางช้างของกรมปศุสัตว์มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ให้การดูแลและใช้งานช้างในปางต่างๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ ตลอดจนปราศจากการทารุณกรรม ดังนั้นปางช้างทั่วประเทศไม่ว่าจะเลี้ยงช้างแบบใดก็ย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายดังกล่าว
หมอต๋องยังกล่าวถึงกรณีที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA) ออกมาแบนลิงเก็บมะพร้าวไทย เมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อโจมตีแบรนด์กะทิของไทยในตลาดโลก โดยกล่าวหาว่าประเทศไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวด้วยวิธีทรมานสัตว์ ทั้ง ๆ ที่ลิงนั้นปีนต้นมะพร้าวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว "เราเพียงฝึกสอนลิงเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ในขณะที่การให้คนปีนขึ้นไปเก็บมะพร้าวเองนั้น นอกจากประสิทธิภาพจะน้อยกว่าลิงแล้ว ยังเป็นการสร้างความเสี่ยงที่อาจจะถึงแก่ชีวิตได้อีกด้วย เราไม่ได้ใช้งานลิง โดยให้ลิงทำงานที่ผิดธรรมชาติของเขา เรียกว่าเป้นการทรมานสัตว์ไม่ได้"
หมอต๋องยืนยันว่าถ้าเป็นช้างเลี้ยงจะอย่างไรก็ต้องผ่านการฝึกมาก่อน แต่ใครจะชอบแบบไหนก็ขอให้ต่างคนต่างเลี้ยงไป อย่าไปเอา NGO ต่างชาติเข้ามาบีบให้วัฒนธรรมอีกฝั่งหนึ่งอยู่ไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมามีคนที่ถูกแบนจนแทบอยู่ไม่ได้จนไม่รู้จะทำอย่างไร บางคนต้องปรับตัวไปเป็นแบบปางช้างโลกสวย
"อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถที่จะเลี้ยงช้างแบบโลกสวยได้ทุกตัว เนื่องจากช้างในประเทศไทยนั้นมีทั้งช้างดุ ช้างตัวผู้ ช้างฆ่าคน ช้างตกมัน เราไม่สามารถเอาช้างทุกเชือกมาเลี้ยงแบบโลกสวยได้ "
หมอต๋อง หรือ สพ.ดร.สิทธิเดช ยืนยันส่งท้ายว่า “ช้างโลกสวยไม่มีจริง”