บอย ไม่หยุดแค่การฉีกสัญญา เตรียมแจ้งความ ดิ ไอคอน
บอย ปกรณ์ ปรากฏตัวที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกับ หนุ่ม กรรชัย และ กัน จอมพลัง เพื่อดำเนินการฟ้องร้อง ดิ ไอคอน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ร่วมกับผู้เสียหายอีกกว่า 100 คน โดยยืนยันว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟอกตัว เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถลบล้างความผิดที่ตนทำไปได้
เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง, นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย และนายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ ได้พาผู้เสียหายประมาณ 100 รายจากบริษัทเครือข่ายชื่อดัง มายื่นเรื่องแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ บก.ปคบ. ถนนพหลโยธิน
หนุ่ม กรรชัย เปิดเผยว่า วันนี้เขาได้พาผู้เสียหายจากหลายจังหวัดมาแจ้งความเกี่ยวกับกรณีของบอย ปกรณ์ หลังจากที่บอยได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจและต้องการให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ บอยยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ที่ไหนเลย ขณะเดียวกัน บอยได้รวบรวมผู้เสียหายโดยให้พวกเขาส่งข้อความทาง Instagram และได้ส่งข้อมูลผู้เสียหายให้เขาผ่าน Line ซึ่งมีผู้เสียหายติดต่อบอยประมาณ 40 คน และยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่ได้ร้องเรียนผ่านเพจ กันจอมพลัง
ในส่วนของกรณีบอสพอลที่แสดงความสนใจจะมาออกรายการของเขานั้น เช้านี้เขาได้ให้ทีมงานติดต่อไปหาบอสพอลแล้ว และขอเวลาให้เขาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะมา อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่บอสพอลโพสต์ว่า พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัทนั้น เขาเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของบอสพอลที่จะคิดเช่นนั้น แต่เขาขอชี้แจงว่า “ถ้าหากมีสิ่งที่ไม่ดีทำให้สังคมเกิดปัญหา ตนก็พร้อมที่จะจัดการกับมันเพื่อให้สังคมดีขึ้น และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
สุดท้ายนี้ ขอยกประเด็นเกี่ยวกับคลิปเสียงปริศนาที่ได้เปิดเผยในรายการ ซึ่งในคลิปนั้นมีเสียงสนทนาของบุคคลคนหนึ่งที่พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ของบริษัท โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่าเสียงนั้นอาจเป็นของบอสพอล ตนจึงอยากให้เขาออกมาชี้แจงว่าเสียงในคลิปนั้นเป็นเสียงของเขาจริงหรือไม่
ในส่วนของบอย ปกรณ์ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า วันนี้เขามาที่นี่เพื่อ 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือการพาผู้เสียหายมาร้องเรียนและแจ้งความ สำหรับผู้เสียหายที่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน สามารถส่งข้อความหาตนได้เลย ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนว่าเขาจะอยู่เคียงข้างผู้เสียหายและต้องการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าตนถูกใช้เป็นเครื่องมือจนทำให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้น
ประเด็นที่สอง เขาจะให้ปากคำตามที่ได้กล่าวไว้ในรายการว่าเขายินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย โดยวันนี้ได้ประสานงานกับตำรวจเพื่อให้ปากคำแล้ว และประเด็นที่สาม เขาจะทำการลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับบริษัท เนื่องจากเขาต้องการปกป้องสิทธิ์ของตนเอง และจะดำเนินการเอาผิดกับบริษัทที่ไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริง ทำให้เขาเข้าใจผิดและเกิดความเสียหาย
ในส่วนของการดำเนินการทางกฎหมาย จำเป็นต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่จะยื่นฟ้อง โดยเบื้องต้นจะมีการแจ้งความในข้อหา ฉ้อโกง และการใช้ภาพของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหาย ขอชี้แจงและย้ำว่า การมาร้องทุกข์ในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าจะลบล้างหรือทำให้สิ่งที่ตนกระทำไปแล้วหมดไป ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จนทำให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้น
ในขั้นแรกจะมีการแจ้งให้บริษัททราบก่อน และจะพิจารณาว่าบุคคลอื่นๆ สามารถถูกดำเนินคดีในข้อหาใดได้บ้าง โดยในสัญญาไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสคริปต์ แต่มีการกำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือในการทำงานอย่างเต็มที่ และโดยปกติแล้ว กระบวนการทำงานในลักษณะนี้จะมีการเขียนสคริปต์ไว้ล่วงหน้าเสมอ
ด้านกัน จอมพลัง ได้กล่าวว่า วันนี้ได้นำผู้เสียหายนับร้อยคนมาร้องทุกข์ดำเนินคดี โดยมีผู้เสียหายบางคนที่เป็นผู้พิการไม่สามารถขายของได้แม้แต่ชิ้นเดียว แต่บริษัทกลับอ้างว่าผู้เสียหายเหล่านี้ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ความจริงคือขายไม่ได้ เขากลัวว่าผู้พิการคนอื่นๆ จะหลงเชื่อและกลายเป็นเหยื่อ
ยืนยันว่าการกระทำของบริษัท The Icon เข้าข่ายผิดกฎหมายใด เราจะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นใครที่ถูกข่มขู่ให้ส่งเรื่องมาที่กัน จอมพลัง ได้เลย และเราจะทำการตรวจสอบให้ เพราะเราไม่ได้รับเงินจากใครทั้งสิ้น
ในขณะนี้ เราต้องการให้ผู้บริหารทุกคนมีความรับผิดชอบและกล้าหาญ เหมือนกับบอย ปกรณ์ ที่จากเดิมเป็นผู้บริหาร วันนี้กลับกลายมาเป็นพีอาร์ มันจะเป็นไปได้อย่างไร
หลังจากนั้น ทั้ง 3 คนได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ชั้น 2 ของตึกกองบังคับการปราบปรามทันที