สคบ.ไม่อยู่เฉย 'จิราพร' เผยตำรวจเร่งดำเนินคดี 'ดิไอคอน' กรุ๊ป
สคบ.ไม่อยู่เฉย 'จิราพร' เผยตำรวจเร่งดำเนินคดี 'ดิไอคอน' กรุ๊ป
น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากดิไอคอนกรุ๊ป ว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาร้องทุกข์ โดยมีผู้ร้องทุกข์แล้วจำนวน 504 ราย รวมมูลค่าความเสียหายถึง 118 ล้านบาท ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สคบ.กำลังร่วมกันสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยไม่มีวันหยุดทำงาน แม้ในช่วงเสาร์อาทิตย์ ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. ทีมงานยังคงทำงานจนถึงเวลา 23.00 น. มีผู้เข้ามาร้องทุกข์อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ ว่าจะมีการพิจารณาให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ น.ส.จิราพร ตอบว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้แล้ว แม้ว่าหลักเกณฑ์จะเข้าข่าย แต่การจะยกให้เป็นคดีพิเศษนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของดีเอสไอ ขณะนี้ดีเอสไอกำลังร่วมตรวจสอบ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการดูแลคดีนี้อยู่ สำหรับผู้เสียหายไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด สามารถร้องเรียนได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ของตนเอง หรือที่สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกรณีคลิปเสียงปริศนาที่พาดพิงถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยมีการกล่าวถึงการติดสินบน น.ส.จิราพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาตรวจสอบ โดยต้องการให้มีการตรวจสอบจากบุคคลภายนอกเพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด คาดว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการมอบโล่รางวัลให้กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่าจะมีนโยบายอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้มีการบริจาคหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 และในระหว่างการสัมมนาของคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค
ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เข้าร่วมเป็นวิทยากร ได้เสนอชื่อเพื่อรับรางวัลในปี 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 การมอบรางวัลจึงเลื่อนมาเป็นปี 2565 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นการยกย่องในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงได้มอบหมายให้ สคบ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบริษัทที่ได้รับรางวัลมีการนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่ เช่น การทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าบริษัทมีผลงานดีจนได้รับรางวัล หากพบว่ามีการกระทำผิดลักษณะนี้ จะมีการเรียกร้องให้คืนรางวัล
เมื่อถูกถามถึงกรณีนักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ของดิไอคอนที่พยายามชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเป็นเพียงพรีเซนเตอร์ จะทำให้พ้นผิดหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะชี้แจง แต่ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อกล่าวหาที่ชัดเจนก็จะมีการดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในลักษณะนี้เคยประสบปัญหาในอดีตและมีการพัฒนาตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม หน่วยงานราชการจึงต้องพัฒนาตนเองให้ทันสมัย สคบ.กำลังเร่งดำเนินการในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชนโดยเร็ว ในระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพิจารณากฎหมายบางฉบับที่อาจล้าสมัยได้ ไม่ทันเหตุการณ์ ส่วนการทำงานเชิงรุกหรือไม่นั้น ตนได้เน้นย้ำไปยัง สคบ. ว่าเราต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการขายตรงและตลาดแบบตรง รวมถึงกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากอนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจในตลาดแบบตรง จะต้องมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพราะจากที่เห็นในปัจจุบัน บริษัทเพียงแค่ส่งงบการเงินเข้ามา แต่ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง จึงอยากให้มีการปรับปรุงในเรื่องนี้ในอนาคต