ทีมของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก พบชิ้นส่วนมนุษย์บนภูเขาเอเวอเรสต์ คาดว่าเป็นของนักปีนเขาคนหนึ่งที่สูญหายไปเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว
การค้นพบนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาโดยสำนักข่าวเอเอฟพี โดยได้รายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันนี้ (13 ตุลาคม 2567) ว่าทีมนักสารคดีของนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ค้นพบชิ้นส่วนมนุษย์บนภูเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นของชายคนหนึ่ง ที่สูญหายขณะพยายามพิชิตยอดเขา เมื่อ 100 ปีที่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ส่งผลให้หิมะและน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาหิมาลัยเบาบางลง และเผยให้เห็นศพของนักปีนเขามากขึ้น ซึ่งพวกเขาต่างเสียชีวิตระหว่างการปีนภูเขาที่สูงที่สุดในโลกลูกนี้ นายไบรตัน แอนดรูว์ เออร์ไวน์ หายสาบสูญเมื่อปี 2467 พร้อมกับนายจอร์จ มัลลอรี เพื่อนร่วมปีนเขา ขณะที่ทั้งสองคนพยายามเป็นคนกลุ่มแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีความสูง 8,848 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล แม้ศพของมัลลอรี ถูกพบเมื่อปี 2542 แต่เบาะแสเกี่ยวกับชะตากรรมของเออร์ไวน์ยังคงคลุมเครือ จนกระทั่งทีมงานของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ค้นพบรองเท้าบู๊ตข้างหนึ่งบนธารน้ำแข็งรงบุกกลาง ซึ่งภายในมีซากเท้า และถุงเท้าที่มีป้ายสีแดงกำกับว่า เอ ซี เออร์ไวน์ ทั้งนี้ การค้นพบดังกล่าวอาจให้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งสิ่งของเครื่องใช้ของทีมนักปีนเขา และอาจช่วยไขปริศนาอย่างหนึ่ง ซึ่งคงอยู่มานานที่สุดในวงการปีนเขา นั่นคือ เออร์ไวน์ และมัลลอรี เคยพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้หรือไม่ นางจูลี ซัมเมอร์ส เหลนของเออร์ไวน์ กล่าวกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ว่า มันบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในเวลานั้น และสมาชิกในครอบครัวเออร์ไวน์ เสนอการแบ่งปันตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อทำการพิสูจน์ยืนยันตัวตนของชิ้นส่วนเท้าที่พบด้วย