เล่นมือถือขณะฝนตกฟ้าร้อง ฟ้าจะผ่าจริงมั้ย?
หลายคนอาจเคยได้ยินคำเตือนจากผู้ใหญ่หรือคนใกล้ตัวว่า “อย่าเล่นมือถือตอนฝนตกฟ้าร้อง เดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอา!” ซึ่งทำให้หลายคนกังวลว่าเวลาที่ต้องใช้โทรศัพท์ในช่วงที่อากาศไม่เป็นใจ แต่คำถามคือจริง ๆ แล้ว การเล่นมือถือในช่วงฝนตกฟ้าร้องจะทำให้ฟ้าผ่าจริงหรือไม่ และมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?
ฟ้าผ่าคืออะไร?
ฟ้าผ่าเกิดจากการสะสมพลังงานไฟฟ้าในเมฆ เมื่อเกิดความต่างศักย์ระหว่างพื้นดินกับเมฆสูงมากจนกระทั่งไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป พลังงานไฟฟ้าจะพุ่งผ่านอากาศในลักษณะเป็นสายฟ้าไปยังพื้นดิน เราจะเห็นเป็นแสงวาบหรือได้ยินเสียงดังฟ้าร้องตามมา การที่ฟ้าผ่าพื้นที่หนึ่ง ไม่ได้เกิดขึ้นสุ่มๆ แต่มักจะพุ่งตรงไปยังวัตถุที่เป็นตัวนำไฟฟ้าที่สูงและโดดเด่นที่สุดในบริเวณนั้น เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรืออาคารสูง
แล้วมือถือเกี่ยวอะไรกับฟ้าผ่า?
หลายคนเข้าใจว่าโทรศัพท์มือถืออาจเป็นสาเหตุให้ฟ้าผ่าเนื่องจากมือถือสามารถปล่อยสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ แต่อันที่จริงแล้ว คลื่นเหล่านี้มีพลังงานน้อยมากจนไม่สามารถทำให้เกิดฟ้าผ่าได้เอง การใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงฟ้าร้องจึงไม่ใช่ปัจจัยโดยตรงที่ทำให้เกิดฟ้าผ่า สิ่งที่อันตรายกว่าไม่ได้มาจากมือถือโดยตรง แต่มาจากสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เราอยู่มากกว่า
ทำไมการอยู่กลางแจ้งขณะฟ้าร้องถึงอันตราย?
หากเราอยู่กลางแจ้งขณะฝนตกและฟ้าร้อง การยืนอยู่ในที่โล่งหรือตัวสูงกว่าสิ่งรอบข้างจะเพิ่มความเสี่ยงที่ฟ้าจะผ่าเรามากขึ้น ไม่ว่าจะถือโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ตาม ฟ้าจะมีแนวโน้มพุ่งมายังวัตถุที่เป็นตัวนำไฟฟ้าที่สูงเด่นในพื้นที่นั้น การใช้มือถือในสถานการณ์นี้จึงไม่ใช่ปัญหา แต่การอยู่ในสถานที่เสี่ยงอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตรายมากกว่า
สถานการณ์ใดที่มือถืออาจเป็นปัจจัยเสี่ยง?
ถึงแม้ว่าการใช้มือถือในตัวเองจะไม่ทำให้เกิดฟ้าผ่า แต่การใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับปลั๊กไฟในอาคารขณะฝนตกฟ้าร้องอาจเพิ่มความเสี่ยงได้ เนื่องจากเมื่อฟ้าผ่าเข้ามาที่สายไฟฟ้าหรือสายโทรศัพท์ พลังงานไฟฟ้าสามารถไหลเข้ามาผ่านสายเหล่านี้และเกิดการช็อตหรือไฟฟ้าดูดได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือที่เสียบชาร์จไฟ หรือใช้โทรศัพท์บ้านที่มีสายเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์ในช่วงฝนตกฟ้าร้อง
การป้องกันตัวเองจากฟ้าผ่า
แม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะไม่ได้เพิ่มโอกาสที่ฟ้าจะผ่า แต่ก็มีข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดฟ้าร้องเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายได้ เช่น
-
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง
ควรหาที่หลบภัยในอาคารหรือรถยนต์ที่มีโครงสร้างที่สามารถป้องกันฟ้าผ่าได้ ไม่ควรอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสูงอื่น ๆ -
ไม่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีมาก ดังนั้นการอยู่ใกล้หรือสัมผัสแหล่งน้ำในช่วงฝนตกฟ้าร้อง เช่น สระน้ำ แม่น้ำ หรือทะเล จะเพิ่มโอกาสที่ฟ้าจะผ่าได้ -
ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า
หากอยู่ในบ้าน ควรปิดและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเพื่อลดความเสี่ยงที่ฟ้าจะผ่าเข้ามาทางสายไฟ -
ไม่ใช้โทรศัพท์ที่มีสายหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อกับไฟฟ้า
อย่างที่กล่าวไปแล้ว การใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับปลั๊กไฟหรือการใช้โทรศัพท์บ้านในช่วงฝนตกฟ้าร้องอาจเสี่ยงต่อการช็อตหรือไฟฟ้าดูด
สรุปแล้ว เล่นมือถือขณะฝนตกฟ้าร้อง ฟ้าจะผ่าจริงมั้ย?
การใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงฝนตกฟ้าร้องไม่ได้ทำให้ฟ้าผ่าตรงๆเลย และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งบอกว่าการเล่นมือถือกลางแจ้งจะเพิ่มโอกาสให้ฟ้าผ่า แต่สิ่งที่ควรกังวลคือสภาพแวดล้อมรอบตัวมากกว่า การอยู่ในพื้นที่โล่ง ตัวสูง หรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำขณะฝนตกฟ้าร้องจะเพิ่มโอกาสที่ฟ้าจะผ่าได้ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้มือถือในช่วงฝนตก ควรอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ภายในอาคารหรือในรถยนต์ที่มีการป้องกันฟ้าผ่า
แต่ถ้าหากอยู่ในบ้านหรืออาคาร การเล่นมือถือในขณะที่ไม่ได้ชาร์จไฟถือว่าปลอดภัย และ ควรหลีกเลี่ยงการใช้มือถือขณะเสียบชาร์จ เพราะอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหากฟ้าผ่าลงมาที่ระบบไฟฟ้าของอาคาร
ในกรณีของการเล่นมือถือขณะฝนตกฟ้าร้อง สิ่งสำคัญไม่ใช่การกลัวว่ามือถือจะทำให้ฟ้าผ่า แต่คือการรู้จักระมัดระวังและหาที่หลบภัยอย่างถูก