ปางช้างแม่แตงเผยเหตุที่ยังรับ'ดอกแก้ว'จาก'เล็ก'คืน'หนูนา'ไม่ได้
ดราม่าระดับช้างที่เข้าหาคุณเล็ก แสงเดือน ผู้ดูแลปางช้างชื่อดังซึ่งถูกน้ำท่วมจนมีช้างเสียชีวิตนั้นกำลังเป็นที่จับตามองของสังคม เมื่อคุณหนูนา ศิลปอาชาจะมารับช้างตัวผู้ออกไปจากคุณเล็กสองเชือกคือพลายดอกแก้วและพลายขุนเดช แต่กลับยังนำช้างทั้งสองออกไปไม่ได้เสียทีหลังคุณเล็กประกาศให้คุณหนูนามารับกลับไป ทั้งที่จัดทีมไปรับแล้วถึงสองครั้งและเสียเวลาไปแล้ว 2 วันแต่ก็ยังนำช้างทั้งสองออกมาไม่ได้ สาเหตุที่แท้จริงคืออะไรกันแน่!?
เฟซบุ๊กของ ปางช้างแม่แตง ได้เล่าเรื่องราวถึงภารกิจรับตัวดอกแก้วและขุนเดชไว้ โดยโพสต์ข้อความดังนี้
.
ว่าด้วยเรื่อง.. ช้างๆ
ภาพที่เห็นในโพสต์นี้คือภาพพลายดอกแก้วที่กำลังเป็นข่าวดราม่าในขณะนี้
แอดมินถ่ายเองครับ.. อยู่ในเหตุการณ์ครับผม
หลายวันมานี้ยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ
ทั้งเป็นผู้ประสบภัยเอง น้ำท่วมบ้าน จนป่านนี้ยังเข้าบ้านไม่ได้ ต้องไปอาศัยนอนที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพราะถึงน้ำลดแล้วแต่ก็ยังมีโคลนติดอยู่เกินหัวเข่า ห้องน้ำก็ใช้ไม่ได้ ไฟฟ้าก็ไม่มี วันที่หนีออกจากบ้านมาได้ก็คือมาแต่ตัว ต้องมีแพยางเข้าไปรับถึงจะออกมาได้..
ปางช้างแม่แตงเปิดตามปกติได้แล้ว หลังจากปิดไปสองวันเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ที่น้ำท่วม และวันเสาร์ที่ 5 ที่เป็นวัน Big Cleaning Day วันอาทิตย์ที่ 6 เราก็เปิดให้บริการตามปกติได้แล้วครับผม ใครมาเชียงใหม่ก็มาเที่ยวหาน้องช้าง มาให้กำลังใจกันได้นะครับ...
โพสต์นี้ตั้งใจจะเล่าถึงเหตุการณ์ทีทางปางช้างแม่แตงได้บังเอิญจำเป็นเข้าไปข้องเกี่ยวและมีบทบาทในเหตุการณ์ดราม่าช้างต่าง ๆ ( ซึ่งสาเหตุไม่ได้เกิดจากเราเลย )
เรื่องแรก พังฟ้าใสที่มีการประกาศตามหากันจากเจ้าของปางช้างแห่งหนึ่ง
ร่างน้องฟ้าใสลอยขึ้นอืดมาติดฝั่งตรงกันข้ามกับปางช้างแม่แตงในวันเสาร์ที่ 5 ซึ่งเราได้แจ้งไปยังปางช้างแห่งนั้นให้เข้ามาดูและพิจารณาดำเนินการนำร่างน้องกลับไป โดยเราแจ้งไปตรงๆ ว่าพรุ่งนี้ ( วันอาทิตย์ที่ 6 ) เรามีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการแล้ว และมีลูกค้าต่างชาติมาจากทั่วทุกมุมโลกจองมาหลายร้อยคน ซึ่งถ้ามีภาพร่างน้องช้างลอยตายขึ้นอืดอยู่ตรงหน้าลานการแสดงช้างน้อยแสนรู้ คงเป็นภาพที่ไม่งามตาและเริ่มส่งกลิ่นเหม็นมาแล้ว
ซึ่งถ้าลูกค้าถามเราก็คงโกหกสร้างนิยายแทนใครไม่ได้แน่ๆ คงต้องให้คำตอบนักท่องเที่ยวไปตามความเป็นจริง ว่าเป็นช้างของปางช้างไหนที่ตายลอยมาติดที่ปางช้างเรา ซึ่งจะส่งผลเสียแบบร้ายแรงกับปางช้างของเขา
เราจึงได้แจ้งเรียนเขาไปตามความเป็นจริง และได้เสนอความช่วยเหลือไปว่าเราจะช่วยเหลือดำเนินการกู้ซากน้องให้ด้วย แต่ก็ไม่ได้ย้ายโดยมีเหตุผลต่างๆ นานา จนข้ามคืนก็ยังไม่ได้ย้ายร่างน้องพังฟ้าใสไปไหน
วันอาทิตย์ที่ 6 ได้มีการใช้พลาสติกผืนใหญ่มาคลุมร่างน้องไว้ โดยยังไม่มีการดำเนินการใดๆ พอช่วงเย็นมาก็ได้มีการขุดหลุมฝังร่างน้อง ฝังตื้นมากๆ และอยู่ไม่ไกลจากริมฝั่งแม่น้ำ และได้มีการเปิดหน้าหลุมเพื่อเผาน้องฟ้าใสตอนเกือบสองทุ่ม พอในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 7 ก็ได้มีการดับไฟ และช่วงบ่ายก็ได้ใช้รถแบ็คโฮลยกร่างน้องใส่รถหกล้อไปฝั่งในสวนลิ้นจี่ที่ลึกเข้าไปในพื้นที่ของสิบแสนรีสอร์ต ตามข่าวที่มีการนำเสนอทั่วไปเลยครับ...
จบเรื่องพังฟ้าใส ก็มีกรณีดราม่าจากเจ้าของปางนั้นจะให้ทางคุณกัญจนา ศิลปอาชา มารับช้างสีดอขุนเดช และ พลายดอกแก้ว ที่คุณกัญจนาได้ฝากไว้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วออกไปโดยด่วน..!!!
( ช้างในภาพประกอบ ซึ่งกำลังพยายามปีนข้ามรั้วออกมา )
ได้มีการประสานกับคุณกัญจนา โดยได้จัดทีมควาญเราไปร่วมกับทีมงานคุณภัทร ภัทรฟาร์มร่มแดนช้าง ทีมคุณชำนาญ ปางช้างแม่ริม ทีมคุณอภิชิต Elephant Rescue Park และควาญเก่งๆ อีกจากหลายๆ ที่มาช่วยกันในภารกิจเพื่อย้ายช้างในครั้งนี้
โดยเข้าพื้นที่ช่วงเย็นวันพุธที่ 9 แต่ก็ยังไม่สามารถนำช้างออกมาได้เพราะทางนั้นขอดูเอกสาร ซึ่งทางเราไม่มีไปเพราะฉุกละหุกเพราะเขาบอกให้ไปรับด่วน..!!! แต่ได้รับการอนุมัติด้วยวาจาจากผู้มีอำนาจโดยตรงแล้ว
ภารกิจที่ไปรับในวันแรกเลยล้มเลิก
วันนี้.. วันที่ 10 จึงได้ไปกันอีกรอบ นัดกันทุกทีมแต่เช้า มีการหารือหน้างาน และได้มีการประชุมด่วนตอนเที่ยงที่ห้องประชุม อบต.กื้ดช้าง เพื่อหารือร่วมกันในทุกๆ ฝ่ายเพื่อหาทางนำน้องพลายดอกแก้วออกมาก่อน
( ส่วนสีดอขุนเดชมีสถานะเป็นช้างป่า ซึ่งต้องเป็นทางกรมอุทยานฯ ดูแลรับผิดชอบในการขนย้าย ซึ่งต้องมีขั้นตอนตามระเบียบของทางราชการ แต่พลายดอกแก้วเป็นช้างของคุณกัญจนา ซึ่งสามารถเคลื่่อนย้ายภายในจังหวัดได้เลย เพราะจะไปอยู่ที่ร่มแดนช้างของคุณธีรภัทร ซึ่งดูแลช้างให้คุณกัญจนาอยู่จำนวนหนึ่งอยู่แล้ว )
แต่ภารกิจวันนี้ก็ต้องล้มเลิกอีกครั้ง อย่างแรกคือเราไม่สามารถที่จะรับน้องออกมาได้ เพราะทางปางนั้นยังไม่ได้ทุบรั้ว ( ซึ่งชำรุดจากกระแสน้ำ ไปทับประตูเหล็กแบบเลื่อน ) ที่จะเป็นการเปิดทางให้น้องพลายดอกแก้วออกมาได้...
เลยมีการตกลงกันว่าทางปางนั้นจะดำเนินการรื้อรัวให้และเปิดประตูเลื่อนให้ให้ทันวันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 11 และมีการนัดกับทีมควาญจากปางต่างๆ ว่าจะเข้าไปรับน้องเอาน้องออกมา นัดพบกันในเวลา 9 โมงเช้าพรุ่งนี้...
และแล้วเหตุการณ์ก็ต้องเปลี่ยนอีกครั้ง....
อัปเดตล่าสุดเมื่อตอนสองทุ่มนี้ ทางผู้จัดการปางนั้นได้โทรมาแจ้งว่าเขาได้ทำการเปิดทางให้แล้ว พร้อมให้ทางเราเข้าไปรับน้องได้เลยพรุ่งนี้เช้า
แต่ทางเราได้ปรึกษากันภายใต้คำแนะนำจากทางสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมย์ฯ ออป.ลำปาง ว่ายังไม่ควรเข้าไปรับ เพราะประเมินแล้วว่าอาจจะต้องมีการใช้ยาซึม ซึ่งเกรงในเรื่องอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้เพราะช้างยังค่อนข้างเป็นเด็กเล็กอยู่ ซึ่งทางคชบาล จะได้จัดทีมสัตวแพทย์เข้ามาประเมินอีกครั้ง... เพื่อความชัดเจนในการทำงานและเพื่อความปลอดภัยของน้องพลายดอกแก้ว
จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า พรุ่งนี้ตามกำหนดเดิมที่นัดกันไว้จะเข้าไปช่วยย้ายน้องพลายดอกแก้วออกมา จำเป็นจะต้องยกเลิกภารกิจ เลื่อนออกไปก่อน ตามคำแนะนำของหลายๆ ฝ่ายครับผม
หากมีเหตุการณ์ดราม่าใดๆ จากปางนั้นขึ้นมาว่าเปิดประตูให้แล้วทำไมไม่มารับกันไป ก็ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า ที่เหตุการณ์เปลี่ยนเพราะได้รับคำแนะนำด้วยความหวังดีจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านช้างระดับผู้ใหญ่ และคุณกัญจนา ก็ได้รับทราบทุกกระบวนการในการตัดสินใจในครั้งนี้...
ขอบพระคุณที่อ่านจบคร้าบบบ... น่าจะเป็นโพสต์ที่ยาวที่สุดในชีวิตของแอดมินแล้ว
ปล.ใครแหลมด่ามา ด่ากลับนะครับ.. อิอิ
#ภารกิจเพื่อน้องช้าง #เราพร้อมเสมอ
#ทีมปางช้างแม่แตง
.
ใต้โพสต์นี้ ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น
.
"ใจอยากให้ไปรับออกมาพรุ่งนี้เลยค่ะ ใจมันรอเห็นน้องออกมาวิ่งเล่นไม่ไหว ต้องใช้ยาซึมกับน้องเหรอคะ ถ้าไม่ใช้จะเอาออกมาไม่ได้เหรอคะ ... ดูจากคลิปวันนี้ น้องน่ารัก ดูแข็งแรงดี"
.
"แล้วที่เหลือที่โดดเดี่ยวจะออกมาได้ตอนไหนคำถามคือโฮปเอาตัวรอดมาได้ต่อไปน้ำมาโฮปจะรอดมั้ย ปรากฏการณ์ครั้งนี้ควรจะมีแผนรองรับปรับพฤติกรรมให้ช้างดุมีทางรอดออกมาเดินได้อย่างไม่กลัวอะไรน้ำมาจะได้เคลื่อนย้ายได้"
.
"ขอสอบถามว่า ถ้าลูกค้าต่างชาติถามแล้วจะส่งผลเสียแบบร้ายแรงกับปางนั้นอย่างไรหรอคะ เพราะเป็นเหตุภัยพิบัติและเค้าย้ายช้างแล้ว แต่น้ำมามากเกินกว่าคาด **ตอบแบบปัญญาชนนะคะ คุยกันด้วยเหตุผล ไม่แซะกันไปมา"
ด้วยความเห็นนี้มีผู้ตอบกลับคนหนึ่งชี้แจงว่า
"ไม่เห็นหรือว่าช้างที่ย้ายได้ ใส่โซ่ ช้างพลายถูกกักบริเวณหนีไม่ได้ ถ้าน้ำมากกว่านี้ก็ตายหมด นี่แช่น้ำจนรอด (ไม่รู้ว่าปอดจะมีปัญหาในภายหลังหรือเปล่า) มันเห็นชัดๆว่าหลอกลวงลูกค้า ระบบเลี้ยงมันด้อยประสิทธิภาพ
วิธีเลี้ยงช้างของป้าคนนั้นเหมาะสมสำหรับเลี้ยงช้างแก่ ช้างพิการจากการทำงาน ถูกฝึกให้ฟังคำสั่งมาแล้ว คุ้นเคยกับคนมาตลอดชีวิต อาการตกมันไม่รุนแรง (ตกมัน นี่ตกได้ทั้งช้างพลายและช้างพัง)
วิธีการเลี้ยงของป้า ถ้าช้างป่วย ตอนดูแลใกล้ชิด หรือตรวจสุขภาพประจำ หรือเคลื่อนย้ายช้าง มันทำได้ยาก มีต้นทุนสูงมาก แต่ประสิทธิภาพต่ำ เพราะเอะอะก็ต้องใช้ยาซึมหรือยาสลบ มันทำลายสุขภาพช้างในระยะยาว และแผนการอพยพอะไรต่างๆ ต้องทำก่อนปางอื่นเพราะควาญไม่ค่อยสนิทกับช้างการควบคุมช้างอพยจะยากกกว่าปกติ
คุณอาจจะไม่เข้าใจความลำบากให้ลองตามเพจหมอโบว์รักษาช้างฟรี รักษากันทีก็หลายวันต้องเข้าถึงเฝ้าอาการควาญต้องสนิทคุมอยู่
สุดท้ายคุณอาจจะวัดประสิทธิภาพการเลี้ยงช้างได้จากการจัดการช้างพลาย ที่ต้องตกมันขาดสติเป็นวงรอบสม่ำเสมอ ถ้าปางขาดภูมิปัญญาและความรู้ จะจัดช้างพลายอย่างสร้างสรรเข้าใจความเป็นสัตว์สังคมของช้างพลายไม่ได้
อย่างโพสนี้ เขาก็บอกว่า พลายดอกแก้วไม่มีประวัติการตรวจสุขภาพ ถ้าให้วิเคราะห์ก็ง่ายๆเลย ควาญไม่กล้าเข้าเพราะไม่มีเวลาทำความสนิทสนม ดอกแก้วไม่เคยถูกฝึกให้รับคำสั่ง
ภูมิปัญญาจัดการช้าง คุณจับหลักการว่าช้างเป็นสัตว์สังคมโดย DNA มันรู้จักลำดับชั้นทางสังคม กรณีดอกแก้วนี้ ทีมงานถึงต้องเอาช้างพลายอาวุโสไป เอาช้างพังอาวุโสไป เพื่อให้ดอกแก้วเกรงขามและมั่นใจว่าช้างพังเป็นแม่แปรกผู้นำโขลง ช้างพลายเป็นจ่าโขลง ช้างจะเข้าโขลงต้องเชื่อฟังแม่แปรกช้างผู้นำ (สมัยนี้มีกล้องทำให้เข้าใจพฤติกรรมสังคมช้างมากขึ้น เราเริ่มเข้าใจว่า โขลงช้างป่า มีช้างหมอตำแย มีช้างหมอรักษา ช้างงาที่เคยเชื่อว่าหากินลำพัง ก็พบว่ามันมีการรวมกลุ่มช้างงาบ่อยๆ)
คุณเทียบเอาได้กับการกระทำที่ด้อยภูมิปัญญา โหดร้ายทารุณ เอาสัตว์สังคมมาขังเดี่ยว เพียงเพราะเป็นช้างงาช้างพลาย แล้วปางตัวเองไม่มีปัญญาสอนให้ฟังคำสั่ง"
อ้างอิงจาก: https://news.postjung.com/1578108
https://www.facebook.com/share/p/5wXvEE5zKz7cx21C/