สรุปข้อมูลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตุลาคม 2568: เช็กสิทธิ์ของคุณได้เลย
สรุปข้อมูลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตุลาคม 2568: เช็กสิทธิ์ของคุณได้เลย
เตรียมตัวสำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในเดือนตุลาคม 2568 โดยคาดว่าจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนและทบทวนสิทธิ์ในช่วงเวลาดังกล่าว มาตรวจสอบเกณฑ์การสมัคร สถานที่ลงทะเบียน และช่องทางในการตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อเตรียมรับเงินจากโครงการนี้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงถึงความก้าวหน้าในการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนในปี 2568 โดยคาดว่าจะมีการทบทวนสิทธิ์ทุก 2 ปี เพื่อประเมินคุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ที่มีสิทธิ์ในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือนตุลาคม 2568 หรือปลายปีนี้
ในขณะนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเกณฑ์การลงทะเบียน ดังนั้นจึงยังคงใช้เงื่อนไขและคุณสมบัติเดิมจากปี 2565
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ลงทะเบียนและครอบครัวว่าตรงตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลังหรือไม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ไม่มีบัตรเครดิต
2. มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี หรือสมาชิกในครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 100,000 บาทต่อคนต่อปี
3. มีทรัพย์สินทางการเงินต่ำกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือในครอบครัวต่ำกว่า 100,000 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งรวมถึงเงินฝาก พันธบัตร และตราสารหนี้
4. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดินเกินกว่าที่กระทรวงการคลังกำหนด
5. ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากนี้ ตามคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน ยังมีกลุ่มบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ในการลงทะเบียนบัตรคนจนโดยอัตโนมัติ ได้แก่ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำนาญ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน และข้าราชการการเมือง เช่น ส.ส. และ ส.ว.
รวมถึงพระภิกษุ สามเณร บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย และผู้ต้องขัง
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทะเบียนแต่ไม่มีบุคคลในครอบครัว กระทรวงการคลังกำหนดว่าทรัพย์สินส่วนบุคคลต้องไม่เกินข้อกำหนด เช่น มีห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่
ที่ดินที่ใช้ในการเกษตรจะต้องมีขนาดไม่เกิน 10 ไร่ ส่วนทรัพย์สินประเภทบ้านพร้อมที่ดิน เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือตึกแถว จะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และรวมกันทั้งหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรจะต้องไม่เกิน 10 ไร่
ตามข้อมูลในปี 2565 กระทรวงการคลังได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านเว็บไซต์ โดยสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้โดยการกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลวัน เดือน ปี เกิด หากไม่ทราบวันหรือเดือนเกิด สามารถเลือกตัวเลือก “ไม่ทราบวันเกิด” หรือ “ไม่ทราบเดือนเกิด”
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกลงทะเบียนออนไลน์ สามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารและสถานที่ที่กำหนดไว้ดังนี้
1. สำนักงานคลัง สังกัดกรมบัญชีกลางทั่วประเทศ
2. ที่ว่าการอำเภอ 878 แห่งทั่วประเทศ
3. สำนักงานเขตกรุงเทพฯ ทั้ง 500 เขต
4. ศาลาว่าการเมืองพัทยา
5. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
6. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
7. ธนาคารออมสิน
8. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
กระทรวงการคลังได้ประกาศจุดตรวจสอบคุณสมบัติสำหรับผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, กรมบัญชีกลาง, กรมสรรพากร, กรมการปกครอง, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, กรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา, กรมที่ดิน, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, สำนักงานประกันสังคม, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม, การยางแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐอีก 18 แห่งที่เข้าร่วม ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก, กรมการกงสุล, กรมราชทัณฑ์, กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, กรมกิจการเด็กและเยาวชน, กรมกิจการผู้สูงอายุ, กรมควบคุมโรค, สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, กรมหม่อนไหม, การท่าเรือแห่งประเทศไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด, และบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับสวัสดิการจากรัฐบาล ซึ่งรวมถึงวงเงินสำหรับการซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภค, ส่วนลดค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, และค่าแก๊สหุงต้ม โดยรายละเอียดของสวัสดิการมีดังนี้:
- ส่วนลดค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- ส่วนลดค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนทุก 3 เดือน
- วงเงินสำหรับการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกณฑ์การลงทะเบียนและเงินสวัสดิการในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงใช้เงื่อนไขเดิมจากปี 2565 หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือข้อมูลการลงทะเบียนจากกระทรวงการคลัง จะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลัง