การขโมยดวง และหมอผีในคราบนักดูดวงจากเรื่องเล่าดัง มีจริงหรือไม่?
จากประเด็นของนักเขียนและอินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังที่กำลังเป็นประเด็นจากรายการ the Ghost Story ด้วยเรื่องเล่าของนักเขียนสาวที่ดูดวงและชอบกิจกรรมเกี่ยวกับดวงชะตา จึงได้ไปพบหมอดูคนหนึ่งและได้ดูดวงกันไปเรื่อยๆ จนสนิทใจมาก สามารถจ่ายเงินและหมอดูรักและเอ็นดูเธอมาก จากนั้นก็พลันเกิดเรื่องแปลกๆ ทั้งการให้รับบูชา วัตถุไสยเวทย์อย่างหุ่นพยนต์ โถดูดวิญญาณ และเริ่มให้ทำพิธีที่น่ากลัวสยองขวัญขั้นต่อๆ ไปสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนลามไปถึงการกินเนื้อดิบและความรู้สึกคล้ายมีวิญญาณตาม และเทพพระแม่อุมาเทวีที่ฝันเห็นนั้นร้องไห้ โชคดีที่เจ้าของเรื่องได้มีเพื่อนที่ดีช่วยพาไปหาพระอาจารย์ที่รู้จักได้ และแนะนำให้มายังที่วัดแห่งหนึ่งในภาคใต้เพื่อถอนของ และเมื่อมาถึงก็พบพระธุดงค์อยู่ที่นั่นเพื่อบอกวิธีถอนของออกและทิ้งของที่เอามา เพราะหมอดูได้หลอกเธอให้รับผีปอบและไสยดำเข้ามา และดวงถูกขโมยไปแล้ว ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อตัวของเธอ และเมื่อเธอหายดี จึงทราบทีหลังว่าหมอดูส่งปอบมาเพื่อกัดกินเธอให้ตายและจะได้เอาวิญญาณไปกักขังไว้เอง
อหนึ่ง จากเรื่องเล่าที่กล่าวมา เป็นเคสของเรื่องเหนือธรรมชาติและกลเม็ดของผู้ใช้ไสยศาตร์ที่แปลกใหม่สำหรับผู้ชมรายการอยู่ไม่น้อย แต่วันนี้ เราจะไขความลับกันกับแต่ละหัวข้อว่า เรื่องเหล่านี้ เราสามารถถอดความออกมาได้เช่นไรบ้าง บางอย่างมีจริงไหมหรือไม่มีกันแน่
การขโมยดวง ในแง่ของศัพท์นั้น หมายความว่า ดวงชะตาของเจ้าของดวงที่อยู่ติดตัวมา ขึ้นอยู่กับอิธิพลของดาว และการกระทำของเจ้าของทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นของที่ติดตัวเจ้าของ มีอันเดียว แต่การขโมยไม่ได้เกิดเป็นรูปธรรมที่ดวงชะตาถูกริบหรือขโมยจนกลายเป็นคนไม่มีดวงแต่อย่างใด การขโมยดวงหมายความว่า ดวงของเราที่ถูกบันทึกถูกผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปใช้เพื่อเล่นของ ในทางไสยศาตร์แล้ว วิชาบางแขนงจำต้องรู้วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก ช่วงเวลาที่เขาจะอ่อนแอของของคนเหล่านั้นเพื่อให้การเล่นของเป็นไปอย่างมีผล หากดวงของเราไปตกกับใครแล้ว ผู้ไม่ประสงค์ดีจะทำงานโดยใช้ดวงเหล่านั้นได้ แต่ไม่สามารถขโมยเอาความโชคดี กรรมของคนๆ นั้นไปได้แน่นอน และโหราศาตร์ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย มันอยู่กับดุลยพินิจในการเชื่อถือของเราเองและหมอดูที่มีจรรยาบรรณเสียมากกว่า
หุ่นพยนต์ในเรื่องที่มีการบอกว่าขยับไปมานั้น หุ่นพยนต์ คือวัตถุมงคลที่เสกจากดินปั้น มีลักษณะคล้ายตุ๊กตารูปทรงมนุษย์ขนาดเล็กที่ทำขึ้นโดยอาจจะมีการสวมคล้ายเสื้อผ้าและถืออาวุธ ใช้ปกป้องบ้านจากภูติผีร้าย มีทั้งไสยขาวและไสยดำตามแต่พิธีกรรมและสายการสร้าง โดยไสยขาวจะใช้วัสดุมงคลอาทิเช่น ไม้จากต้นไม้ที่มีความมงคล ดินทรายบริสุทธิ์ แร่เหล็กน้ำพี้ เป็นต้น แต่ไสยดำจะใช้วัสดุที่มาจากศพ ของต่ำ ของสกปรก เช่น ดินในป่าช้า ตะปูที่ตอกโลงศพ มวลสารน้ำเหลือง กระดูก หากไม่มั่นใจในวัสดุของเครื่องรางตัวรนี้ อย่านำมาจะดีที่สุด
โถดูดวิญญาณในเรื่องที่ว่ามีคุณสมบัติในการกระเด้งผีออกและปกป้องเจ้าตัวนั้น ที่จริงแล้วสิ่งนั้นอาจจะเป็นโถที่ใช้เลี้ยงผีไว้ ผีหลายประเภทเช่นปอบ ผีกะ จะเลี้ยงไว้ใช้งานในโถ โดยสามารถใช้โถที่มีรูปทรงสวยงามได้เพื่อหลอกผู้ที่รับไป และสิ่งศักดิ์สิทธ์จะไม่นำมาไว้ในโถอย่างแน่นอน
ซึ่งสิ่งที่สังเกตได้ง่าย แปลกๆ และเริ่มมาคุมากที่สุด คือการที่หมอดูบอกให้กินเนื้อดิบ เราต้องพิจรณาดูว่า หากสิ่งที่เขาให้บูชามีความศักดิ์สิทธจริง ต่อให้เป็นยักษ์เช่นท้าวเวสสุวรรณก็จะไม่กินเนื้อดิบ อันวิศัยของเทวดานั้นจะทานอาหารทิพย์ อาหารที่ถูกทำขึ้นปรุงสุก ขนมหวาน ผักผลไม้เป็นต้น หรือยักษ์เองนั้นหากเป็นชั้นเทวดา การกินเนื้อดิบจะเป็นนิสัยติดตัวและจะกินในโอกาศนานๆ ครั้ง เพราะยักษ์เหล่านี้จึงจะเลือกทานผักผลไม้ ถือศีลเสียมากกว่า พวกที่ทานเนื้อดิบนั้น จะเป็นเปรตอสูรกายชั้นล่างที่มีฤทธิ์ขึ้นมามากหน่อย และหากให้มีการจุดธูปหนึ่งดอกตอนกลางคืนด้วย ก็แปลได้ว่ามันคือการเรียกเชิญผีทั่วไปมาอยู่นั่นเอง
สุดท้ายนี้ เดรัจฉานวิชาหรือไสยศาตร์ดำที่มีการใช้ของอันตราย มักจะแฝงตัวในคราบของหมอดูที่ต้องระวังและพิจรณา ก่อนจะเชื่อใดๆ ควรลองคิดดูให้ดี และนอกจากนี้ ไม่มีสิ่งใดช่วยคุณได้เท่ากับการลงมือทำเพื่อเป้าหมายของตัวคุณเอง และการมีที่พึ่งเป็นพระรัตนตรัยเป็นสรณะสูงสุดเพื่อให้เข้าถึงความแจ้งกระจ่างในชีวิต
เมื่อหาข้อมูล เกี่ยวกับ เดรัจฉานวิชา ที่มีระบุไว้ในพระไตรปิฏก พระสูตรเรื่อง "มหาศีล" จาก พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค (๙/๖๔/๑๑๔-๑๒๑) ระบุไว้อย่างละเอียดว่า
"ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่าง
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัดรำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอ
ปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษเป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.ฯ เป็นต้น "
แน่นอนว่า เดรัจฉานวิชานี้ ภิกษุควรหลีกเลี่ยงการทำ และฆารวาสควรจะไม่ทำสิ่งเหล่านี้ เพราะมันสร้างความหลง (โมหะ) ทำให้มีผู้อื่นเดือดร้อน เป็นไปได้ ควรจะเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทั้งสิ้น