ชายไต้หวันวัย 50 ปีเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 เพราะนิสัยกลั้นอุจจาระตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี
ในชีวิตประจำวันของเรานั้น หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม แต่กลับมองข้ามสุขภาพของลำไส้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในวัยกลางคนและสูงอายุ เรื่องราวของชายวัย 50 ปีในไต้หวันที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 3 หลังจากมีนิสัยกลั้นอุจจาระมานานกว่า 30 ปี เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพลำไส้
ชายคนนี้เริ่มมีนิสัยกลั้นอุจจาระตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปี เนื่องจากตารางงานที่ยุ่งเหยิงและความกดดันจากการทำงาน ทำให้เขาไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ตามต้องการ ในช่วงแรกๆ เขาอาจไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป นิสัยนี้ทำให้เขาประสบปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น อาการท้องผูกเรื้อรังและความรู้สึกไม่สบายตัว
การกลั้นอุจจาระเป็นประจำส่งผลให้เกิดแรงกดดันในลำไส้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือการเปลี่ยนแปลงในเยื่อบุลำไส้ได้ นอกจากนี้ การสะสมของสารพิษในลำไส้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งอีกด้วย
เมื่อเวลาผ่านไป ชายคนนี้เริ่มมีอาการที่น่ากังวล เช่น การมีเลือดปนในอุจจาระ อุจจาระสีดำคล้ายยางมะตอย หรือการเปลี่ยนแปลงในนิสัยการขับถ่าย เช่น ท้องผูกเรื้อรังหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม และควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสอบอย่างละเอียด
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แนะนำให้ผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีเข้ารับการตรวจสอบด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทุกหนึ่งถึงสองปี เพื่อเฝ้าระวังปัญหาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังควรให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดี โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้