สรุปละเอียดประเด็นร้อน!! รถบัสนักเรียนทัศนศึกษาไฟไหม้

กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราต้องได้ยินข่าวการสูญเสียของเด็ก ๆ นักเรียนไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์

กราดยิงศูนย์เด็กเล้กที่จังหวัดหนองบัวลำภู รถทัศนศึกษาของนักเรียนตกเขา

หรือประสบอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั้งเหตุการณ์ล่าสุด นั่นคือ เหตุการณ์รถบัสไฟไหม้

ซึ่งเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจของผู้ที่เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงและประชาชนที่มีลูกหลาน

ในวัยเดียวกัน

----------------------------- จุดเริ่มต้นทัศนศึกษามรณะ -------------------------------

เรื่องราวนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเดินทางไปทัศนศึกษาของนักเรียน

โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราช อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้มีการจัดการทัศนศึกษา

ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยได้มีการว่าจ้างรถของบริษัทชินบุตรทัวร์ จำนวน 3 คัน

นำครูและนักเรียน จำนวน 44 คน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

- นักเรียนอนุบาล 2 จำนวน 2 คน

- นักเรียนอนุบาล 3 จำนวน 4 คน

- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 7 คน

- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 คน

- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 คน

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 คน

- นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 คน

- ครู 5 คน

- นักศึกษาฝึกสอน 1 คน

ทั้งหมดได้เดินทางไปทัศนศึกษาที่วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

และนิทรรศการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

เวลาประมาณ 9.00 น. เพจเฟสบุ๊คของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม

ได้ลงสตอรี่เป็นภาพบรรยากาศการทัศนศึกษาที่วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์

จะเห็นได้ว่าบรรยากาศนักเรียนต่างมีความสุขจากกิจกรรมทัศนศึกษา

----------------------------- นาทีเกิดเหตุ -------------------------------

แต่เมื่อเวลาประมาณ 12.08 น. รถบัสนักเรียนคันที่ 2 ยี่ห้อเบนซ์ แผ่นป้ายทะเบียนเหลือง

ทะเบียน 30-0423 ได้เกิดอุบัติเหตุยางหน้าระเบิด รถเชี่ยวชนกับรถคันอื่นและชนเข้ากับแบริเออร์

เกาะกลางถนนตรงข้ามซอยพหลโยธิน 72บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้าจนเกิดเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น

อย่างรวดเร็ว

เมื่อเวลา 12.22 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที

จึงควบคุมเพลิงให้สงบลงได้

----------------------------- เปิดใจกู้ภัย -------------------------------

นายปิยะลักษณ์  ถิ่นแก้ว เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบลักษณะ

ของรถบัสคันดัวกล่าวพบว่ามี 2 ชั้น โดยชั้นล่างถูกปรับแต่งให้เป็นช่องเก็บสัมภาระ

ส่วนชั้นบนจะเป็นที่นั่งของผู้โดยสาร รถคันดังกล่าวได้ติดก๊าซ NGV จำนวน 7 ถัง

และมีประตูทางออกทั้งหมด 5 จุด แบ่งเป็นประตูฝั่งคนขับ 1 บาน ประตูฉุกเฉินด้านล่าวขวา 1 บาน

แต่ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากติดแบริเออร์ ประตูฉุกเฉินด้านบน 1 บาน ประตูด้านหน้าฝั่งซ้าย 1 บาน

และประตูกลางรถฝั่งซ้ายอีก 1 บาน ซึ่งไม่สามารถจะเปิดได้เช่นกัน คาดว่าน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้าของตัวรถ

ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้

เมื่อตรวจสอบชั้นบนของตัวรถได้พบร่างของผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตมากที่สุด

คือ ประตูฉุกเฉินชั้นบนซึ่งอยู่ท้ายรถ ช่วงกลางตัวรถพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ใต้เก้าอี้นั่งโดยสาร

คาดว่าขณะเกิดเหตุไฟไหม้ผู้เสียชีวิตพยายามเอาชีวิตรอดโดยการหลบเปลวไฟ

ใต้เก้าอี้นั่งโดยสาร

----------------------------- ตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต -------------------------------

เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยกันลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถบัส

โดยลักษณะของร่างผู้เสียชีวิตนั้นมีรอยไฟไหม้ดำทั่วตัว ขณะนั้นยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้ว่า

เป็นร่างของใครบ้าง จากการสำรวจยอดคนหายเบื้องต้น พบว่า มีร่างผู้เรียนชีวิตประมาณ 23 คน เป็นครู 3 คน

นักเรียน 20 คน โดยมีรายชื่อดังนี้

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1         1. ด.ช.ธีระพงศ์ เพียรกสิวิทย์         2. ด.ญ.ปฏิณญา เทศจำปา         3. ด.ญ.อัจฉรา จำนงค์สังข์

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2         1. ด.ช.กฤษดา พุ่มทอง         2. ด.ช.สิริณัฏฐ์ แก้วใจ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3         1. ด.ช.ณัฐพงศ์ ขำกระแสร์         2. ด.ช.พัสกร พลีดี         3. ด.ช.พีรภัทร วังพลับ         4. ด.ช.องอาจ ใจแสน         5. ด.ช.อาชวิน วงษ์ดิษฐ์         6. ด.ญ.ธิติพา โฉมศรี

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4         1. ด.ช. ชาคริต โยศรีธา         2. ด.ช.ณฐพัชร์ วังพลับ         3. ด.ช.ธนกฤต โพธิ์ตุ้ย         4. ด.ช. บวรศักดิ์ ถึงทรัพย์         5. ด.ช.พีรฉัตร บุญชื่น         6. ด.ช.ฤตธวัช สืบสายจันทร์

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3         1. ด.ญ.ปาณรินทร์ ชูประเสริฐ         2. ด.ญ. พิมชนก มีศรี         3. ด.ญ.สุนิชา ยอดนิโรจน์

คุณครู         1. ครูกนกวรรณ ศรีผง         2. ครูพิมพ์ทอง สมบัติ         3. ครูสรินญา หอมเกศร (ฝึกสอน)

ภาพที่สลดใจที่สุดของเหล่ากู้ภัย นั่นคือ ร่างของคุณครูกนกวรรณ ศรีผง

และคุณครูพิมพ์ทอง สมบัติ ได้กอดเด็กไว้ในอ้อมอกพร้อมปกป้องเด็ก จนมอดไหม้ไปกับเปลวเพลิง

คุณครูกนกวรรณ ศรีผง (คุณครูสาวน้อย) เพิ่งเข้ารับปริญญา

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

คุณครูพิมพ์ทอง สมบัติ (คุณครูจอย) เพิ่งได้รับรางวัลเหรียญเงิน

ในการคัดเลือกผลงานปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ทางแอดมินของกระทู้นี้ขอขอบคุณความกล้าหาญของคุณครูทั้งสองท่าน

ที่พยายามช่วยปกป้องเด็ก ๆ ด้วยชีวิต

นางสาวสริญญา หอมเกษร (คุณครูมิ้ม) นักศึกษาฝึกประสบการณ์ วิทยาลัยอุทัยธานี

เป็นคนเก่ง ขยัน พูดน้อย แต่ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ อีกแค่ 7 วัน ก็จะฝึกสอนเสร็จสิ้นแล้ว

แต่ต้องมาเสียชีวิตไปซะก่อน

----------------------------- ผู้รอดชีวิตและได้รับบาดเจ็บ -------------------------------

1. ครู ออกมาจากตัวรถได้ 3 คน

2. นักเรียนได้รับบาดเจ็บ 3 คน ได้แก่

- ด.ญ.อารดา จิรายุ อายุ 7 ปี เรียนชั้น ป.2 (ใส่ท่อช่วยหายใจ)

- ด.ญ.พิมพ์ธาดา พิมพ์ไพทูร อายุ 9 ปี เรียนชั้น ป.3 มีผลไหม้ตามร่างกาย 10%

- ด.ญ.นฤพร รัตนเกาสันต์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีแผลไหม้ตามร่างกาย 20%

3. นักเรียนปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 16 คน ให้อยู่ศูนย์พักพิงเพื่อรอตรวจสภาพร่างกาย

และจิตใจจากจิตแพทย์ ส่วนเด็กนักเรียนและคุณครู รถคันที่ 1 และ 3 เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว

----------------------------- คนขับที่หายไป -------------------------------

หลังจากเกิดเหตุหลายคนต่างถามหาคนขับรถบัสคันดังกล่าว แต่ก็ไม่พบ คาดว่าอาจหลบหนีไปแล้ว

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ พบว่ามีคนเห็นคนขับรถบัสได้ออกมาจากรถแล้วพยายามใช้

ถังดับเพลิงมาฉีดดับไฟ แต่ก็ไม่ทันท่วงที เพราะเปลวไฟลุกลามขึ้นเร็วมาก ๆ หลังจากนั้น

ก้ไม่มีใครพบคนขับรถที่ชื่อ นายสมาน อายุ 48 ปี อีกเลย จนกระทั่งได้รับการติดต่อมาว่า

นายสมานรู้สึกตกใจกลัวจนหลับหนีไปที่จังหวัดอ่างทองซึ่งเป็นบ้านญาติ เมื่อช่วงเย็น ๆ ของวันเกิดเหตุ

ได้ติดต่อกลับมาว่าจะขอเข้ามอบตัว ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาเบื้องต้น 4 ข้อหา ดังนี้

1. ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน,

2. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,

3. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ,

4. ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลและไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ

ไม่แสดงตัว และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย

----------------------------- เร่งตรวจ DNA ผู้ปกครอง -------------------------------

กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งเข้าตรวจ DNA ผู้ปกครอง เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต

ที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ ขณะนี้พบเป็นเพศชาย 11 คน เพศหญิง 7 คน ระบุไม่ได้อีก 5 คน

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจเซลล์ที่กระพุ้งแก้มของผู้ปกครอง เพื่อส่งต่อให้สถาบันนิติเวช เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์

ระบุตัวตนต่อไป

----------------------------- ส่ง 23 ร่างกลับสู่อ้อมกอดครอบครัว -------------------------------

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้เตรียมจัดรถเพื่อเดินทางไปรับ

ศพบุตร-หลานที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กลับมาที่ จ.อุทัยธานี ด้วยตัวเอง

พร้อมหารือและตกลงกันว่า จะนำร่างผู้เสียชีวิตคุณครู-นักเรียน ทั้ง 23 คน มาประกอบพิธีทางศาสนา

ที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินีทรงรับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ญาติของนักเรียนที่เสียชีวิต ระบุว่า ต้องทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ไม่อยากจะให้เกิดความสูญเสีย

แต่มองว่าผู้เสียชีวิตทุกคนเดินทางไปด้วยกัน ควรประกอบพิธีทางศาสนาพร้อมกัน

กรณีเกิดอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ ที่ถนนวิภาวดีทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ

จะช่วยเหลือยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการรับศพอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ ทั้งหมดทุกคนมูลนิธิร่วมกตัญญู

ช่วยเหลือเรื่องหีบศพ และรถไปส่งให้ทุกคน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ทั้งนี้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี จ.อุทัยธานี ขอเชิญชาวอุทัยร่วมแต่งกาย ไว้ทุกข์ ไว้อาลัย

ให้กับคณะครูและนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ ทำให้ผู้เสียชีวิต 23 คน เป็นเวลา 3 วัน

ตั้งแต่วันที่ 2-4 ต.ค.นี้

----------------------------- สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้รถบัส -------------------------------

หลังจากเกิดเหตุสลดดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เร่งตรวจหาสาเหตุสำคัญ

ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบอยู่นาน ได้ผลการสันนิษฐานเบื้องต้นคือ

สาเหตุเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิด ทำให้เกิดประกายไฟ ถังก๊าซ NGV ซึ่งติดอยู่กับตัวรถนั้น

เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ช่วยให้เปลวไฟลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ภายหลังพบว่ารถบัสคันนี้

ผ่านการใช้งานแล้ว 54 ปี ซึ่งค่อนข้างเก่าและทรุดโทรม โดยยื่นจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อปี 2513

ตอนที่ยื่นขนส่งไม่ได้แจ้งว่ามีการติดก๊าซ NGV แต่อย่างใด เจ้าของบริษัทแจ้งว่ามีการตรวจสภาพถังก๊าซตลอด

ซึ่งตามกฎหมายแล้ว สามารถติดถังก๊าซได้ไม่เกิน 3 ถัง แต่รถบัสคันดังกล่าวติดถึง 7 ถัง

ซึ่งไม่ตรงตามข้อกฎหมายที่ระบุ

----------------------------- ประกันรับผิดชอบอะไรบ้าง ? -------------------------------

รถบัสคันดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

โดยกรมธรรม์เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 มิ.ย.2567 และสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2568 ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต

หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน

กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 - 500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน

และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

ประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับบริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

กรมธรรม์เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 มิ.ย.2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2568

- ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน

- ความรับผิดต่อทรัพย์สิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง

-กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ 600,000 บาท ต่อครั้ง

- ทุพพลภาพของผู้ขับขี่ 50,000 บาท ผู้โดยสาร 40 คน ๆ ละ 50,000 บาทต่อคน

- ค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาทต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ 300,000 บาทต่อครั้ง

บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

กรมธรรม์เริ่มคุ้มครองวันที่ 15 พ.ค.2567 สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ค.2568

- ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 80,000 บาทต่อคน

- ค่ารักษาพยาบาล 8,000 บาทต่อคนต่อครั้ง

สมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย

- จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลจากความคุ้มครอง พ.ร.บ. วงเงิน 30,000 บาทต่อคน

----------------------------- ไว้อาลัย -------------------------------

ขอให้ทุกดวงวิญญาณของผู้ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ไปสู่สุขคติ

ฝากคุณครูดูและเด็ก ๆ ด้วยนะคะ