ชายทำหมัน 3 ปี จู่ๆ ภรรยาตั้งครรภ์ แต่ผล DNA ชี้ว่าเป็นลูกเขาจริงๆ
ในชีวิตคู่ของคนเรา มักมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อมั่น ในกรณีของชายคนหนึ่งที่ทำหมันมาเป็นเวลา 3 ปี เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันหนึ่งที่ภรรยาของเขาจะตั้งครรภ์อีกครั้ง เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาได้รับข่าวร้ายที่ทำให้ชีวิตคู่ของเขาสั่นคลอน
ชายคนนี้มีลูกสองคน และการทำหมันถือเป็นทางเลือกที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มเติม การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่เกิดจากความต้องการที่จะมีครอบครัวขนาดเล็กลง แต่ยังมาจากความรับผิดชอบต่ออนาคตและการเงินของครอบครัว เขาเชื่อมั่นว่าการทำหมันจะช่วยให้เขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่ดีที่สุดแก่ลูก ๆ ของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อภรรยาของเขาประกาศว่าตนตั้งครรภ์ เขากลับรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในความซื่อสัตย์ของเธอ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในใจคือ "เธออาจจะนอกใจฉัน" ความรู้สึกนี้ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับภรรยาและสอบถามถึงความซื่อสัตย์ของเธอ
ภรรยาของเขาไม่เพียงแต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการนอกใจ แต่ยังแสดงความกล้าหาญในการยินดีที่จะทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความจริง เธอพูดอย่างหนักแน่นว่า หากผลตรวจแสดงว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา เธอจะออกจากบ้านและรับผิดชอบต่อเด็กเอง แต่ถ้าเด็กนั้นเป็นลูกของเขาจริง ๆ เขาจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากและโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินให้เธอ
ในขณะที่ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความเครียดจากสถานการณ์นี้ ชายคนนี้ตัดสินใจไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ที่ไม่คาดคิด แพทย์ได้อธิบายว่าแม้ว่าการทำหมันจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีโอกาสเล็กน้อยที่อาจเกิดการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากอาจมีอสุจิที่เหลืออยู่หรือท่อที่ทำหมันกลับมารวมตัวกัน
คำพูดของแพทย์ทำให้ชายคนนี้รู้สึกโล่งใจบ้าง แต่ก็ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับภรรยา เขาเริ่มตั้งคำถามถึงความรักและความไว้วางใจที่ทั้งคู่เคยมีต่อกัน ในช่วงเวลานั้น เขาพบว่าตนเองต้องเผชิญกับความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความโกรธ ความสงสัย และความกลัวว่าจะสูญเสียครอบครัวไป
เมื่อผลตรวจทางพันธุกรรมออกมา เด็กนั้นกลับเป็นลูกของเขาจริง ๆ ความรู้สึกของชายคนนี้เต็มไปด้วยความโล่งใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำไมภรรยาของเขาถึงตั้งครรภ์ได้? มีเหตุผลอะไรเบื้องหลังหรือไม่? หรือว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ?
ในที่สุด เขาตัดสินใจที่จะพูดคุยกับภรรยาอย่างเปิดใจ พวกเขานั่งลงด้วยกันและเริ่มพูดคุยถึงความรู้สึกและข้อกังวลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การสนทนาในครั้งนั้นช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้น และสามารถคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นได้