พบซากศพที่เชื่อว่าเป็นแวมไพร์ในศตวรรษที่ 17
ในยุคกลาง ความเชื่อเกี่ยวกับแวมไพร์และสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนอย่างลึกซึ้ง การค้นพบซากศพแวมไพร์ในศตวรรษที่ 17 ที่เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของโปแลนด์ได้เปิดเผยถึงความกลัวและความเชื่อที่มีต่อการฟื้นคืนชีพของผู้ตาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการจัดการกับความตายที่แตกต่างจากปัจจุบัน
ซากศพที่ถูกค้นพบมีลักษณะเฉพาะ โดยหนึ่งในนั้นถูกจัดวางให้มีคออยู่ติดกับเคียว การกระทำนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ตายสามารถฟื้นคืนชีพได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่แพร่หลายมากในสมัยนั้น การใช้เคียวในการฝังศพแสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลของชุมชนต่อการกลับมาของผู้ตายที่อาจนำมาซึ่งอันตราย
ในสมัยนั้น ชาวบ้านมีความเชื่อว่า ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วอาจกลับมาทำร้ายคนเป็นได้ ดังนั้นจึงมีการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น เช่น การฝังศพในท่าที่ไม่ปกติหรือการใช้วัตถุอื่นๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ตายฟื้นคืนชีพ ความกลัวนี้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน ทำให้เกิดพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการกับศพอย่างเคร่งครัด
นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นว่า การค้นพบซากศพเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อในอดีต แต่ยังสะท้อนถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นอีกด้วย การศึกษาเกี่ยวกับซากศพแวมไพร์จึงเป็นก้าวสำคัญในการสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษย์