คลังเตรียมเปิดลงทะเบียน บัตรคนจนรอบใหม่ปีหน้า!!
กระทรวงการคลัง กำลังวางแผนที่เปิดลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" รอบใหม่ ในเดือนมีนาคม 2568 เพื่อทบทวนคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ หลังจากการลงทะเบียนรอบล่าสุดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 คาดว่าในรอบนี้ หากเปิดลงทะเบียนจะมีการทบทวนเงื่อนไข ของผู้ได้รับสิทธิเข้าโครงการใหม่
แผนการที่กระทรวงการคลังได้เตรียมไว้ คือ มีการทบทวนสิทธิใหม่ทุก 2 ปี เพราะอาจมีประชาชนบางกลุ่มหลุดเกณฑ์ หรือ ผู้ที่พลาดรับสิทธิในโครงการฯ จากการตรวจสอบจำนวนผู้ลงทะเบียนในรอบที่แล้ว เมื่อปี 2565 มีผู้ลงทะเบียนกว่า 14.9 ล้านคน ปัจจุบันเหลือ 13.5 ล้านคน ซึ่งจำนวนที่ลดหายไปเนื่องจาก ผู้รับสิทธิเสียชีวิตไปแล้ว...
ใครมีสิทธิลงทะเบียนบัตรคนจน?
สำหรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ เบื้องต้นคาดว่าจะยังคงเดิม โดยพิจารณาทั้งรายได้และทรัพย์สินของผู้ลงทะเบียนและครอบครัว ตามรายละเอียดดังนี้
- ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุมีตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาท/ปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ไม่เกิน 100,000 บาท/คน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี
- เป็นผู้ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
บุคคลที่เหล่านี้ห้ามลงทะเบียนบัตรคนจน
- พระภิกษุ สามเณร
- ผู้ที่กระทำผิดตามหลักข้อกฎหมาย ผู้ต้องขัง
- บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ
- ข้าราชการการเมือง ได้แก่ สส. และ สว.
ผู้ถือบัตรคนจนได้รับสวัสดิการใดบ้าง?
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน จะได้รับสวัสดิการจากรัฐบาล ช่วยอุดหนุนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จากข้อมูลเบื้องต้นจะได้รับตามสิทธิประโยชน์ตามที่ระบุในปี 2565 ดังนี้
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 300 บาท/คน/เดือน
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาท/คน/เดือน
- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม จำนวน 80 บาท/คน/3 เดือน
- บรรเทาภาระค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- บรรเทาภาระค่าไฟฟ้า: 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
สวัสดิการเหล่านี้ใช้งบประมาณราว 4,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 50,000 ล้านบาทต่อปีเดือน ทั้งนี้ ต้องคอยติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากรัฐบาล ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างไรบ้าง