วิกฤติละครไทย "ตุ๊ก ดวงตา" กระทบหนักมาก ไร้งานเกือบปี!
ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี นักแสดงชื่อดัง และอดีตดารา กปปส. ได้เปิดเผยถึงวิกฤติละครไทย ดาราต้องรอด คือรอดได้ถ้าทำมาแล้วเก็บหอมรอมริบใช่มั้ย ก็จะมีทุนไว้ใช้จ่าย ช่วงนี้งานมันน้อยมาก แม่ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับวงการบันเทิงบ้านเรานะ ตอนนี้ละครไม่เปิดเลย ผู้จัดเสนอเข้าไปช่องไม่อนุมัติเลย บางเจ้าเห็นบอกว่าเสนอไปเป็น 10 เรื่อง ไม่อนุมัติเลยสักเรื่องเดียว บางช่องเคยเปิดละครปีหนึ่งเป็น 100 เรื่อง ปีนี้อนุมัติละครแค่ 9 เรื่อง ดูตัวเลขซิมันต่างกันขนาดนี้มันไม่น่าเชื่อ จริงๆเราไม่ใช่ผู้จัดเราก็เลยไม่ได้เข้าไปลึกขนาดนั้น ว่าทำไมช่องถึงไม่ยอมให้สร้างละคร หรือเปิดละครใหม่กัน มันมีความบันเทิงในแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้คนเข้าไปดู จะดูเมื่อไหร่ก็ได้ จะดูอะไรก็ได้คือมันหลากหลายกว่า และเวลาดูก็ไม่ต้องรำคาญโฆษณาดูแบบยาวๆ เพราะฉะนั้นคนก็ดูเรียลทีวีน้อยลง
ส่วนเล่นละครมากี่ปีแล้ว? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า 40 กว่าปี ส่วนช่วงที่พีคที่สุดในวงการบันเทิงที่มีคนรู้จักทั้งประเทศ? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า เมื่อก่อนดังมากนะ ก็จะมีหลายๆ บทที่เราได้รับก็ดังขึ้นมา ช่วงเล่นละครเรื่องบ้านทรายทอง ตอนนั้นเป็นหญิงเล็กก็ดังมาก ช่วงทำงาน 4 ทุ่มสแควร์ เป็นพิธีกรก็ดังมาก คือพีคไม่พีคคิดดูแล้วกัน 7 วัน 7 เรื่อง ให้คิวเรื่องละหนึ่งวันเท่านั้นก็ทำมาแล้ว
ส่วนในอดีตกับปัจจุบันวงการละครต่างกันยังไงบ้าง? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า คือพัฒนาการทางด้านเทคนิคแน่นอนอยู่แล้วมันเปลี่ยนไป มันทันสมัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้อง ไฟ เครื่องมือต่างๆ มันก็จะมีอะไรใหม่ใหม่ขึ้นมา ส่วนพัฒนาการของนักแสดง มันก็แน่นอนว่าเราเองเราเป็นนักแสดงเราเป็นคนในยุค 80-90 เราจะทำตัว 80-90 อยู่ตลอดเวลาก็ไม่ได้ เพราะว่าเราข้ามยุคมาแล้ว แล้วเรามาอยู่ในยุคนี้ด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวร่วมสมัย ในสมัยนี้เค้ามีอะไร เค้ามีพัฒนาการอะไรในการแสดงเค้ามีอะไรเราก็ต้องดูต้องเรียนรู้ เพื่อที่จะไม่ได้เลียนแบบแต่นำเอาของดีๆเพื่อมาพัฒนาตัวเอง เพราะฉะนั้นการเล่นละครในสมัยนี้ก็จะต่างจากการเล่นละครในสมัยก่อน การเล่นละครในสมัย มันจะเป็นการแสด๊งแสดง แต่สมัยนี้มันจะมีความธรรมชาติมากขึ้น มันเหมือนจริงมากขึ้น
ส่วนบทบาทที่ได้รับเป็นยังไงบ้าง? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า บทที่ไม่ได้รับไม่ค่อยมีตรงกลาง มันจะสุดๆไปเลยไม่มีน้อยและไม่ค่อยมีตรงกลาง บทง่ายๆเค้าไม่ค่อยให้เล่น บทพื้นๆ เค้าก็ไม่จ้างเรา เวลาเราเล่นแล้วคนจำเราได้ถึงจะเรียกว่าเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ คือถ้าเผื่อเล่นอะไรไปแล้วคนจำไม่ได้ แสดงว่ามันไม่ติดตาไม่ติดตาตึงใจ ใครก็จะจำเราไม่ได้
ส่วนความสุขของการได้เป็นนักแสดงคืออะไร? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า การออกไปกองทุกวัน รถตู้มารับบ้างถ้าไปถ่ายไกลๆ หรือการตื่นเช้ามาได้ขับรถตัวเองออกไป แล้วก็ไปเจอคนในกองซึ่งแต่ละกอง ก็จะแต่งต่างคนกัน ต่างผู้กำกับต่างนักแสดง ไปเราก็จะไปเจอคนใหม่ๆ ในทุกวันเลย ชีวิตมันท้าทายดีและมันไม่เหงา ให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็เหงา เหงาแล้วพลอยจะเฉาเอา
ส่วนวิกฤติละครไทยแม่ได้รับผลกระทบยังไงบ้าง? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า ได้รับผลกระทบมาก คือปกติอย่างที่บอกอาทิตย์หนึ่งจะว่างแค่ 1-2 วันเท่านั้น หรือบางทีทั้งอาทิตย์ไม่ว่างเลยมีกองตลอด คืออย่างที่บอกอาทิตย์หนึ่งบางทีเล่น 6-7 เรื่อง แต่ตอนนี้มันไม่มีเลยสักเรื่องหนึ่ง มีละครช่อง 7 ติดต่อมาเรื่องหนึ่งแต่ก็ยังไม่เปิด ก็รอเขาเปิดแต่ตอนนี้ไม่มีเลยสักเรื่องหนึ่ง หลายเดือนแล้วด้วย
ส่วน 40 ปีในวงการถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า เคยมีช่วงวิกฤติ ในการแสดงอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน ประมาณปลายปี 2548 เป็นช่วงที่มีงานพิธีกร 5 รายการ ถูกเอาคืนหมดเลย เปลี่ยนพิธีกรบ้าง เปลี่ยนรูปแบบรายการบ้าง ช่องเอาเวลาคืนบ้าง หมดไปเลยพร้อมๆกัน แล้วละครก็ติดต่อมาเรื่อง 1 ของ พี่ไก่ วรายุฑ แต่ก็ยังไม่เปิด ช่วงนั้นแม่ก็ว่างอยู่เกือบปีเหมือนกัน ทำให้แม่ได่เข้าวัดไปศึกษาธรรมะ ซึ่งแม่ดีใจมากที่แม่มีช่วงนั้นมันเป็นช่วงธรรมะจัดสรร ชีวิตเราดีขึ้นเพราะมีธรรมะเข้ามาอยู่ในใจ
ส่วนนานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีงานละคร? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า ละครเรื่องสุดท้ายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 1 ปีแล้วนะ คืออะไรมันจะเกิดมันต้องปล่อยให้เกิด เราก็ไปฝืนไม่ได้ ขนาดผู้จัดบางคนยังต้องปิดบริษัทไปแล้วเลย ผู้จัดยังไม่ไหวแล้วนักแสดงล่ะ
ส่วนที่เป็นอีกหนึ่งคนที่มีบารมีในวงการบันเทิงมากคิดไหมว่าตัวเองจะตกงาน? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า ไม่ใช่ว่ามีบารมีแล้วจะไม่ตกงาน เพราะเราไม่ได้ใช้เส้นสายไปขอละครใครเล่น ไปบังคับใครให้เค้ามาจ้างเราเล่น เค้าจ้างเรามีฝีมือหรือถูกอกถูกใจการแสดงของเรา แต่ว่าก็ไม่คิดว่าจากคนงานเยอะๆอย่างแม่ กลายเป็นคนที่ต้องอยู่บ้านทุกวัน ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์มากในชีวิต นี่ถือว่าเป็นวิกฤติครั้งที่ 2 สำหรับการเป็นนักแสดง ว่างงานมาเกือบจะ 1 ปี แต่โชคดีที่เราเล่นมานานเราอยู่มานาน โชคที่ที่ยังดึงเอาของเก่ามากินมาใช้ รายได้ไม่มีแต่ค่าใช้จ่ายคงเดิม
ส่วนจะเกษียณจากงานในวงการเมื่อไหร่ ? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า ไม่เกษียณ คือคิดว่าตัวเองจะเล่นละครไปจนจะเล่นไม่ไหว จนกว่าสังขารจะไม่ให้ เพราะว่ามันอยู่ในสายเลือด วันๆอยากออกไปแสดงอยากออกไปกอง อยากออกไปเจอผู้คน ชอบทำงานชอบแสดงชอบทำการแสดงมากๆ บอกกับตัวเองไว้เลยว่าจะไม่มีวันเกษียณอย่างแน่นอน จนกว่าร่างกายจะไม่ให้ หรือไม่มีคนจ้าง แต่ตอนนี้เริ่มเสียวไส้แล้วเพราะไม่มีคนจ้าง ก็เดี๋ยวรอดูต่อไปว่าจะเป็นยังไง
ส่วนถ้าไม่มีละครที่เล่นแล้วแม่มองอนาคตตัวเองยังไง? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า ก็คงเข้าวัดมากขึ้น แล้วก็อาจจะสังสรรค์กับเพื่อนมากขึ้น ที่หยุดงานมาหนึ่งปีตอนนี้เปลืองตังค์มาก เพราะออกไปกินข้าวกับเพื่อนบ่อยมาก แต่มันก็เป็นเหมือนช่วงชดเชยชีวิต เพราะช่วงที่เรางานเยอะเราก็ไม่ค่อยได้ใช้เงิน ก็ไม่ค่อยได้เจอเพื่อน ได้ใช้ชีวิตที่ไม่ใช่เครื่องจักรมาก เมื่อก่อนนี้เป็นเครื่องจักร แต่ก็เป็นการให้รางวัลตัวเองเหมือนเค้าให้หยุดพักผ่อน
อยากจะฝากอะไรถึงดารารุ่นใหม่ไหม? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า เป็นห่วงมากเลยนะเด็กๆ เพราะว่าสมัยนี้ทุกอย่างมันเอื้อให้เราใช้เงินเยอะ เพราะว่าเด็กยุคนี้เป็นยุคที่แข่งขันกัน แข่งชิงดีชิงเด่นกัน เธอมีไอ้นั่นฉันต้องไอ้นี่ มันเป็นช่วงแข่งกัน ซึ่งแม่เข้าใจนะ มันอยู่ที่วัย ก็อยากจะบอกว่าทำงานมาแล้วให้เก็บรอมริบกันไว้เยอะๆ หน่อยถ้าไม่เก็บเดี๋ยวจะลำบาก อย่างแม่ตอนนี้มีเงินเก็บก็ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากมาก แต่ว่าเด็กใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามาเรื่องสองเรื่อง ยังไม่ทันจะมีงานอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ทันจะได้เก็บอะไรมากมายตอนนี้งานมันน้อยลง หาอะไรเผื่อทำดีกว่า ทำธุรกิจก็ได้ ถือว่าไปทำอะไรที่มันมีรายได้พิเศษขึ้นมาดีกว่า อย่าหวังพึ่งวงการอย่างเดียว เพราะวงการบันเทิงมันไม่แน่นอน และในยุคนี้เป็นหนัก เพราะฉะนั้นเด็กๆ ต้องระวังตัวกันมากๆ ใครที่มีรายได้ดีๆก็อย่าชะล่าใจเก็บเงินเก็บทองกันนะลูก คือทุกๆอย่างมันมีขึ้นมันมีลง เผื่อไว้ดีที่สุดเราไม่ได้แช่งใคร แต่เราเผื่อใจไว้เผื่อพฤติกรรมเราไว้ด้วย
ส่วนตอนนี้ทำธุรกิจทำกับข้าวขาย? ตุ๊ก ดวงตา บอกว่า จริงๆ แล้วก็เป็นธุรกิจในครัวเรือน ก็มีลูกสะใภ้ เค้าก็เป็นคนมีฝีมือทำอาหาร พอเค้าทำอาหารอะไรออกมาแล้ว มีแขกมาทุกคนก็จะบอกว่ากับข้าวอร่อย พอช่วงที่ไม่มีงานทำนี่แหละ แม่บอกว่ามาช่วยหาค่าน้ำค่าไฟหน่อย ทำกับข้าวอร่อยเราทำกับข้าวขายเลย แม่ยังพอมีชื่อเสียงไม่เอาชื่อเสียงของแม่เข้าไปช่วยดันได้ ช่วยโปรโมตได้ ก็โอเคนะเดือนเดือนหนึ่งก็ได้เลยค่าน้ำค่าไฟ สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของร้านก็มีอยู่ 5-6 อย่าง สามชั้นคั่วพริกเกลือ มีคอหมูย่างจิ้มแจ่ว มีไส้กรอกอีสาน มีแหนมสามชั้น แล้วก็มีผัดสามเหม็น มีทำส้มตำด้วย