สวีเดนยอมจ่ายเงิน 350,000 โครนาต่อหัว จูงใจพวกผู้อพยพออกนอกประเทศ
รัฐบาลฝ่ายขวาของสวีเดน ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า "พวกเราจะปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ ที่มีในปัจจุบัน จากระะดับ 10,000 โครนาต่อหัว เป็น 350,000 โครนาต่อหัว และ ลดระเบียบขั้นตอนราชการที่เกี่ยวข้อง กับการยื่นรับสิทธิดังกล่าว ในความพยายามกระจายข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้ และ ดึงดูดพวกผู้รับข้อเสนอเพิ่มเติม..."
สิทธิประโยชน์ในปัจจุบัน จำกัดเพดานสูงสุดไว้ที่ครอบครัวละ ไม่เกิน 40,000 โครนา แต่ข้อเสนอใหม่นี้ ไม่มีการจำกัดเพดานสูงสุดแต่อย่างใด โดยสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2026 ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับ คณะศึกษาทบทวนชุดหนึ่ง ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล ซึ่งระบุในรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า "การส่งเสริมส่งตัวกลับประเทศ จะเป็นตัวขัดขวางการบูรณาการพวกผู้ลี้ภัย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสวีเดน"
ก้าวย่างนี้ถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในด้านนโยบายและวาทกรรมของสวีเดน ซึ่งเป็นที่รู้กันมานาน ว่าเป็นแหล่งหลบภัยสำหรับพวกที่หลบหนีออกจากประเทศต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ เวลานี้กำลังมีชาติต่างๆ ในยุโรปมากขึ้นที่หันมาใช้จุดยืนแข็งกร้าวมากขึ้น ในประเด็นผู้อพยพ ท่ามกลางการผงาดขึ้นมาของพรรคฝ่ายขวา และ พรรคประชานิยม
รัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของสวีเดน มีเสาหลักคือพรรคสวีเดน เดโมแครตส์ พรรคขวาจัดที่คว้าเก้าอี้ในรัฐสภาได้มากที่สุด เป็นอันดับ 2 ในศึกเลือกตั้ง 2022 พรรคแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นในฐานะขบวนการเคลื่อนไหว "นีโอ-นาซี" ในช่วงทศวรรษ 1980 แต่ปรับโฉมตนเองในฐานะพรรคอนุรักษนิยมในเวลาต่อมา และ มีมาตรการควบคุมผู้ลี้ภัยเป็นแก่นกลางของนโยบาย
สมาชิกรัฐสภาจากพรรคสวีเดน เดโมแครตส์ "ลุดวิก แอสพลิง" ให้คำจำกัดความข้อเสนอนี้ว่าเป็นแพกเกจช่วยเหลือ และ อ้างว่าแผนการใหม่ จะช่วยลดอุปสรรคด้านการบริหาร ของโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
"สวีเดน" มีประชากร 10.6 ล้านนคน มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 250,000 คน ในช่วงกลางปี 2023 มีเพียงแค่ราว 70 คน ยอมร้องขอรับสิทธิประโยชน์เมื่อปีที่แล้ว และ มีเพียงแค่คนเดียวที่ได้รับมัน แต่มีผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ 16,000 คน จากแอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชียกลาง สมัครใจเดินทางออกจากสวีเดน โดยไม่ขอรับสิทธิประโยชน์ใดๆในปีที่แล้ว
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสวีเดนเปิดตัวนโยบายใหม่ด้านผู้ลี้ภัย ที่มีท่าทีเข้มงวดขึ้นกว่าเดิมในด้านการขออนุญาตพำนักอาศัย และ มุ่งเน้นเพิ่มการส่งตัวกลับประเทศ ขณะที่การปฏิรูปด้านนโยบายยังรวมไปถึง การเปิดการตรวจสอบผลลัพธ์ของรายงานฉบับหนึ่ง ที่เตือนเกี่ยวกับผลกระทบของการเพิ่มสิทธิประโยชน์ แลกกับการโยกย้ายถิ่นฐาน
การสืบสวนเป็นการตรวจสอบ ทบทวนนโยบายแบบเดียวกัน ที่ใช้โดยเดนมาร์ก ที่เสนอเงินสิทธิประโยชน์น้อยกว่าสวีเดนราวครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันพอประสบความสำเร็จอยู่บ้าง หลังพบว่ามีพวกผู้ลี้ภัยตั้งใจยอมรับข้อเสนอเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับจำนวนเงินที่เพิ่มให้
นโยบายคนเข้าเมืองและผู้ลี้ภัย ที่เข้มงวดขึ้นของสวีเดน ก่อสภาพแสดล้อมที่ไม่แน่นอนแก่พวกผู้ลี้ภัย ทำให้พวกเขาหางานอย่างเป็นทางการได้ยากขึ้น และอ่อนแอต่ออาชญากรรมมากกว่าเดิม จากความเห็นของ "มาร์คติน นีแมน" ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ขององค์กรสิทธิมนุษยชน ที่มีสำนักงานในสตอกโฮล์ม กล่าวว่า "สารจากรัฐบาลนี้ก็คือ ผู้คนไม่ควรเดินทางมายังสวีเดน..."
พวกผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่า "จำนวนเงินที่มากขึ้น จะสามารถดึงดูดใจพวกผู้ลี้ภัย ให้เดินทางออกไปได้มากน้อยแค่ไหน? เนื่องจากมีเพียงแค่คนเดียว ที่ฉวยประโยชน์จากข้อเสนอนี้เมื่อปีที่แล้ว และ แม้จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ในว่าที่มาตรการใหม่ แต่ก็ไม่อาจขจัดข้อสงสัยดังกล่าวไปได้..."